วางไมค์ไปนานจนเริ่มคิดถึงแฟนเพลง ล่าสุด เอิร์น-จิรวรรณ ชัยรุ่งเรือง (เตชะหรูวิจิตร) อดีตนักร้องยุค 90-ผู้บริหารสาธิตกรุงเทพธนบุรี เตรียมรวมตัวพี่ๆน้องๆ นักร้องในยุคเดียวกันเพื่อทำเพลงด้วยกันแค่รอให้โควิดเบาบางไปก่อน

จะเปิดเป็นค่ายเพลงเลยมั้ย “ทำแค่พวกเรา ด้วยความคิดถึงแฟนเพลงมากกว่า ต้องบอกก่อนว่าตอนนี้เอิร์นเชื่อว่าเพื่อนๆ มองแฟนคลับที่อยู่กับเราเป็นเหมือนพี่น้องกันจริงๆแล้วล่ะ เอิร์น 20 ปีที่หายไปจากวงการ ทุกคนแฟนคลับเองยังติดตามคอยสอบถามตลอดเวลา ทุกคนมารวมตัวกันทำเพื่อดึงช่วงเวลาที่มีความสุขระหว่างเรากับแฟนเพลงกลับมา ตอนนี้กลับมาทำด้วยความรักมากกว่า เรามาคุยกัน มีรายการเดอะแมสก์ ซิงเกอร์ เรามีความคิดถึงในยุค 90 ของเราเป็นยุคที่สวยงามและหลายๆคนคิดถึงก็เลยมาคุยกัน เพราะจริงๆ แด๊บบี้มีผลงานอยู่แล้ว มีคุยอยากทำงานกับพี่ๆ เลยจุดประกายคุยกัน ดีเหมือนกัน”

ช่วงปีนี้เห็นภาพชัด ศิลปินอาร์เอสกลับมาร้องเพลงกันเยอะ

“จริงๆต้องบอกว่าในความรู้สึกตัวเองเป็นยุคสุดท้ายที่จับต้องได้ที่สวยงาม มีเทป มีซีดี มีภาพทุกอย่าง มีเวทีคอนเสิร์ตของศิลปินที่เป็นฟรีคอนเสิร์ต แฟนคลับมาเจอ เป็นยุคจับต้องได้ที่ผูกพันกันจริงๆ ตรงนี้น่าจะเป็นกระแสที่ทำให้กลับมา เรามีความรู้สึกเป็นสมบัติที่เราได้มาจากการออกเทปของเราที่เป็นแฟนคลับ วันนี้ไม่ใช่สายเลือดเดียวกันแต่เหมือนพี่น้องกัน เห็นเราหายจากไอจีหลายวันจะเข้ามาทักพี่เอิร์นไม่สบายหรือเปล่า ตอนเอิร์นท้องแฟนคลับส่งผลไม้มาให้เต็มเลย เราเลยมีความรู้สึก ตอนนั้นขอบคุณแต่ตอนนี้กลายเป็นสิ่งมีค่า ทำให้เราโหยหาบรรยากาศเก่าๆ เพราะเพลงทำให้เชื่อมต่อกันได้”

ตอนนี้เอิร์นมีหลายบทบาทมาก

“ใช่ค่ะทุกคนเลย มีงานประจำและเป็นคุณแม่ด้วย ตอนนี้เอิร์นมาบริหารที่สาธิตกรุงเทพ ธนบุรี ซึ่งถือว่าเราโชคดี เราได้ทำงานที่เราทำงานไปด้วยและดูแลลูกไปด้วย เรามีความสุขมาก น้องดวิณเรียนอยู่ที่โรงเรียน เราบริหารไป สิ่งที่เราอยากให้ลูกได้รับจากการไปโรงเรียนเราใส่ที่โรงเรียน สาธิตกรุงเทพธนบุรี”

ทางสามี ดร.ดราฟล่ะ

“(หัวเราะ) โตแล้วไม่ต้องดูแลมาก”

แต่เค้าก็ต้องการเวลาจากเราเหมือนกัน

“ใช่ๆ ถ้ามีเวลาตรงกันก็จะใช้เวลาร่วมกัน พาลูกไปทำกิจกรรมต่างๆ เพราะสามีเป็นคนที่ติดลูก ด้วยความที่ทำงานเยอะ งานไม่ได้เป็นรูทีน บางทีต้องไปกระทรวง ไปราชการต่างจังหวัด กลับมาก็จะแพลนพาลูกไปโน่นไปนี่พาลูกทำกิจกรรม พอเราแต่งงานมีลูก คำว่าหวานไม่ต้องนึกถึงเลยเหมือนเป็นความอบอุ่นมากกว่า ไม่ว่าเอิร์น พี่ดราฟ ลูกๆ สองคน มีคุณแม่สองฝ่ายไปด้วยจะกลายเป็นครอบครัวใหญ่ไปเลย ความผูกพันที่อบอุ่นขึ้น”

มีลดทอนการทำงานเหมือนแข่งทำงาน

“ไม่มีเลย จริงๆพี่ดราฟ กับแม่บังอรที่เป็นท่านอธิการบดี ท่านเป็นคนทำงานคุณภาพ เราเองมีสองหน้าที่ แต่การทำงานสามีจะบอกว่าเราทำให้มากกว่านี้หน่อย เค้าเป็นแนวสายงานเลย เราต้องหาจุดบาลานซ์ความรู้สึกเรา งานสำคัญแหละแต่สิ่งที่สำคัญอีกอย่างนึงเป็นโฟกัสแรกเลยคือลูกทั้งสองคน มีการคุยปรับจูนทัศนคติ ฝั่งพี่ดราฟสายทำงาน ทางเอิร์นจะสายครอบครัวเพราะสมัยเราเป็นลูกพ่อแม่จะมีเวลาให้เราตลอดเวลา เราเลยมีความรู้สึกอยากเป็นอย่างนั้น อยากมีเวลาให้ลูก เลยต้องบาลานซ์จุดกึ่งกลางที่ทำงานและดูแลลูกได้ด้วย”

ซัมเมอร์แล้วถ้าเอิร์นจะใส่ทูพีซอวดหุ่นแซ่บ สามีไฟเขียวมั้ย

“สามีตามใจ ยกเว้นเยอะๆ มีพูดบ้างเอาจริงเหรอชุดนี้ ตรงนี้เป็นสิ่งน่ารักของเค้า เราจะแต่งตัวสไตล์ไหนเค้าจะไม่ค่อยมายุ่งเกี่ยว เอิร์นคุยแล้วว่าแต่งตัวแต่งหน้าทางใครทางมันนะ เหมือนเป็นความชอบของเรา การที่เราออกไปเราต้องมีความมั่นใจ เค้าก็จะเข้าใจไม่มาอะไรมากมาย มีแต่ลูกชาย แม่เซ็กซี่ไปเปล่า คนโตมานั่งจ้องเบนด์ เค้าเป็นแนวหวงแม่ นัดเพื่อนออกไปตอนกลางคืน รถยังไม่ทันออกจากหมู่บ้านเลย แม่ถึงที่ร้านกินข้าวแล้วใช่มั้ย จะกลับกี่ทุ่ม อีกกี่นาทีกลับ โทร.ตามตลอด ทุกคนขำเพราะนึกว่าเป็นสามีเพราะทุกครึ่งชั่วโมงโทร.มาอีกแล้ว เราก็บอกแม่อยู่กับดีจนเพื่อนจะเลิกคบแล้ว เค้าบอกว่าคิดถึงเราไม่ต้องคบก็ได้อยู่กับดี เดี๋ยวโตขึ้นดีก็ต้องมีเพื่อน แม่ก็ต้องแพลนอนาคตแม่เหมือนกัน ก็ขำแต่ดีใจนะที่ลูกหวง”.