ผู้เสียหายคดี “ประสิทธิ์ เจียวก๊ก” และเครือข่าย ฉ้อโกงพันล้าน กว่า 20 คน นำหลักฐานมอบกองปราบฯ เผยคนเดียวโดนไปร่วม 80 ล้าน ร่วมลงทุนทุกอย่าง เพราะเห็นว่าเป็นบุคคลที่มีต้นทุนทางสังคม ทั้งยังร่วมลงพื้นที่ทำจิตอาสาด้วยกัน ไม่เชื่อบริษัทขาดสภาพคล่อง

ทั้งนี้ โดยส่วนตัวแล้วมองว่า การทำธุรกิจของนายประสิทธิ์ไม่เข้าข่ายแชร์ลูกโซ่ เพราะมีธุรกิจจริง ได้ผลประกอบการ และไม่ได้ปันผลจากการแนะนำต่อแต่อย่างใด นายประสิทธิ์อ้างว่าบริษัทประสบปัญหาสภาพคล่องเพราะเศรษฐกิจไม่ดี ซึ่งขัดเเย้งกับความเป็นจริงที่บริษัทนายประสิทธิ์เติบโต

ส่วนผู้เสียหายอีกราย อ้างว่า เคยเป็นพนักงานในบริษัทของนายประสิทธิ์ โดยสมัครเข้าทำงานช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ก่อนถูกชักชวนให้นำเงินลงทุนสหกรณ์ อ้างจะให้เงินปันผล 15 เปอร์เซ็นต์ของเงินลงทุน ทุก 39 วัน เป็นสิทธิพิเศษเฉพาะพนักงานเท่านั้น จึงไปชักชวนครอบครัวและญาติ ร่วมลงทุนมูลค่ารวมกว่า 1 ล้าน 4 แสนบาท ซึ่งได้เงินปันผลครบทุกรอบ แต่ภายหลังขอเงินลงทุนคืน กลับถูกบ่ายเบี่ยง

“ช่วงเมษายนที่ผ่านมาพนักงานติดต่อให้ไปเซ็นเอกสารประนอมหนี้ โดยระบุจะแบ่งจ่ายชำระหนี้ให้เป็นระยะเวลา 1 ปี แต่ต่อมากลับติดต่อไม่ได้ ทุกวันนี้ลำบากมาก เพราะไม่มีเงินจะใช้จ่าย ต้องจำนำของในบ้านแทบทั้งหมด” ผู้เสียหายกล่าว

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ได้นำเอกสารเกี่ยวกับการทำธุรกิจของนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก นักธุรกิจและประธานโครงการคืนคุณแผ่นดิน ไปตรวจสอบเพื่อใช้ในการประกอบคดี.