“เป๊ป” พูดถึง “ฮาแลนด์” หนแรก หลังมีข่าวพัวพันก่อนเกม แมนฯ ซิตี้-ดอร์ทมุนด์ ชปล.


"เป๊ป" พูดถึง "ฮาแลนด์" หนแรก หลังมีข่าวพัวพันก่อนเกม แมนฯ ซิตี้-ดอร์ทมุนด์ ชปล.

กีฬาฟุตบอลยุโรป

ไทยรัฐออนไลน์

6 เม.ย. 2564 13:44 น.

บันทึก
SHARE

กุนซือแมนฯ ซิตี้ พูดถึง เออร์ลิง ฮาแลนด์ เป็นครั้งแรก หลังมีข่าวว่าอาจย้ายมาร่วมงานกันซัมเมอร์นี้ ก่อนเกมยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ปะทะ ดอร์ทมุนด์

วันที่ 6 เม.ย. 64 ความเคลื่อนไหวก่อนเกมยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบ 8 ทีม นัดแรก ซึ่ง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จ่าฝูงพรีเมียร์ลีก อังกฤษ จะเปิดบ้านต้อนรับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ อันดับ 5 บุนเดสลีกา เยอรมัน ในคืนนี้ 02.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

ข่าวแนะนำ

ก่อนเกมนี้มีประเด็นในตลาดนักเตะช่วงซัมเมอร์ระหว่างทั้ง 2 ทีม ซึ่ง เออร์ลิง ฮาแลนด์ ดาวยิงเนื้อหอมของ “เสือเหลือง” ทีมเยือน มีข่าวพัวพันกับ “เรือใบสีฟ้า” ที่กำลังหาตัวแทนของ เซร์คิโอ อเกวโร ดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของสโมสรที่จะหมดสัญญาช่วงซัมเมอร์นี้

สัปดาห์ที่แล้ว มิโน ไรโอลา เอเย่นต์ส่วนตัว และ อัลฟ์-อิงเก ฮาแลนด์ คุณพ่อของเขาเดินสายคุยกับหลายทีมชั้นนำของยุโรป ทั้ง บาร์เซโลนา กับ เรอัล มาดริด 2 ยักษ์ใหญ่ ลา ลีกา สเปน ต่อด้วยอีกหลายทีมในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซึ่งคาดว่าจะมี ลิเวอร์พูล, เชลซี, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อดีตต้นสังกัดของคุณพ่อที่กำลังจะพบกันในยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก คืนนี้

อย่างไรก็ตาม “เรือใบสีฟ้า” อาจต้องทุ่มงบมหาศาล เนื่องจาก เออร์ลิง ฮาแลนด์ เหลือสัญญากับ ดอร์ทมุนด์ จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน ปี 2024 และมีค่าตัวประเมินในเวลานี้สูงถึง 154 ล้านปอนด์ (6,622 ล้านบาท) ซึ่งต้องรอจนถึงปี 2022 ค่าฉีกสัญญาจึงจะลดเหลือ 65 ล้านปอนด์ (2,795 ล้านบาท)

ล่าสุด เป๊ป กวาร์ดิโอลา กุนซือแมนฯ ซิตี้ ออกมาให้สัมภาษณ์ก่อนเกมถึงข่าวเชื่อมโยงที่มีกับ ฮาแลนด์ ว่า “ที่ผ่านมาสโมสรตัดสินใจไม่ทุ่มเงินในระดับ 100 ล้านปอนด์ (4,300 ล้านบาท) เพื่อคว้าตัวผู้เล่นเข้ามา ฟุตบอลเป็นกีฬาที่เล่นเป็นทีม ทุกคนต้องช่วยกัน ไม่ได้ขึ้นอยู่กับคนใดคนหนึ่ง”

“ความจริงก็คือเราจะไม่ทุ่มเงินมหาศาลเพื่อผู้เล่นเพียงคนเดียว แม้การมีเงินมากมายจะทำให้คุณได้เปรียบกว่าทีมอื่นๆ ก็ตาม สิ่งเดียวที่ผมสามารถพูดได้ก็คือ ด้วยวัยของเขา ฮาแลนด์ ถือเป็นศูนย์หน้าที่มีความพิเศษ”

“บางทีในอนาคตอาจมีการทุ่มเงินมากกว่า 100 ล้านปอนด์เพื่อผู้เล่น 1 คนเกิดขึ้นก็ได้ ถ้าพวกเขา (ผู้บริหารสโมสรแมนฯ ซิตี้) ตัดสินใจว่าทีมจำเป็นต้องยกระดับเพื่อการยืนระยะในช่วง 5-10 ปีข้างหน้า หรือด้วยเหตุผลอื่นๆ แต่ที่ผ่านมาสโมสร, บริษัท, ซีอีโอ, ผู้อำนวยการกีฬา ตัดสินใจว่าจะไม่ทำแบบนั้น และนั่นคือเหตุผล”

อ่านเพิ่มเติม…