วันที่ 14 มี. ค. 2564 ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการลงมติของญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 3 ของรัฐสภา ว่า ตนในฐานะผู้จุดประกายเริ่มต้นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยการเป็นผู้ยื่นญัตติให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหาและแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ จนทำให้สภาผู้แทนราษฎรได้เดินหน้าเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาจนถึงปัจจุบันนี้ ซึ่งการจะเดินหน้าลงมติใน วาระ 3 ได้หรือไม่นั้น ส่วนตัวเชื่อว่า แนวทางของ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เป็นแนวทางที่ถูกต้อง เพราะท่านเป็นผู้ที่ยึดหลักการ และความถูกต้อง มีความเป็นกลางมากที่สุด ที่สำคัญ คือ ไม่มีส่วนได้-เสีย ส่วนความเห็นของฝ่ายต่างๆ ที่แสดงความเห็นเรื่องนี้อาจจะมีวาระซ่อนเร้นทั้ง 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายที่ไม่อยากให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็จะอ้างคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ มาตีความว่า ญัตติเป็นโมฆะ หรือตกไปแล้ว ขณะที่อีกฝ่ายที่ต้องการจะให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็จะยกเหตุผลข้ออ้างว่า สามารถเดินหน้าลงมติในวาระ 3 ได้ต่อ

“ส่วนตัวผมเองมีความเห็น สนับสนุนแนวทางของ นายชวน หลีกภัย โดยเห็นว่า เมื่อญัตติดังกล่าวได้บรรจุเป็นวาระของที่ประชุมรัฐสภาแล้วก็ต้องเดินหน้าต่อไปให้เสร็จสิ้นกระบวนความ ส่วนการลงมติใดๆ ก็ถือเป็นดุลพินิจของสมาชิกรัฐสภาทุกคน สำหรับตนสนับสนุนแนวทางและจุดยืนของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ประกาศว่า สามารถลงมติเห็นชอบในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 ในวาระ 3 ได้เลย เพราะญัตติดังกล่าวเป็นการเสนอโดยพรรคร่วมรัฐบาล ถ้าหากพรรคร่วมรัฐบาลพรรคใด ไม่ลงมติสนับสนุนญัตติที่ตัวเองได้เสนอไปแล้ว ก็ต้องมีคำตอบให้กับประชาชน ว่าพรรคการเมืองนั้นมีความจริงใจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญมากน้อยแค่ไหนเพียงใด และถ้าหากพรรคร่วมรัฐบาลไม่มีเอกภาพในการลงมติในวาระ 3 ก็ถือว่าเป็นการเขียนด้วยมือลบด้วยเท้า เป็นการหลอกลวงและหักหลังประชาชน รวมถึงหักหลังพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันเองด้วย ทั้งที่ญัตติการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็น 1 ใน 12 นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ถ้าญัตตินี้ถูกตีตกไป พรรคร่วมรัฐบาลก็จะต้องแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองร่วมกัน โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะที่ชูประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เป็น 1 ใน 3 เงื่อนไขหลักของการเข้าร่วมรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็จะต้องทบทวนเงื่อนไขการเข้าร่วมรัฐบาลอย่างแน่นอน พรรคจำเป็นต้องทำ ไม่ใช่แค่คำขู่ แต่เพื่อเป็นการรักษาจุดยืน หลักการ และอุดมการณ์ของพรรคที่ถือปฎิบัติมาร่วม 75 ปีแล้ว ส่วนญัตตินี้จะถูกคว่ำหรือตกโดย ส.ว.หรือไม่นั้น ถือเป็นเรื่องเหนือความควบคุมของพรรคร่วมรัฐบาล แต่อย่างน้อยพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคค้องสามารถอธิบายสังคมให้ได้” นายเทพไท กล่าว