พ่อพาลูกชาย เข้าพบประธานชมรมทนายความ ก่อนร้องขอความเป็นธรรมกับ ผกก.สภ.เมืองระยอง ถูกตำรวจซ้อมในห้องขัง หลังโดนจับกัญชา 1 มวน แล้วขอบุหรี่ดูด สิบเวรไม่พอใจเข้ามาทั้งเตะทั้งต่อย และยังทำร้ายเพื่อนร่วมห้องขังที่ให้ยืมโทรศัพท์ด้วย

นายธนากร กล่าวว่า ช่วงที่อยู่ในห้องขังบน สภ.เมืองระยอง ตนได้ขอบุหรี่ดูดจากสิบเวรเฝ้าห้องขัง ชื่อ ด.ต.อุทัย ไชยปุริวงค์ แต่ถูกสิบเวรคนดังกล่าวบอกให้เอาเงินมา 200 บาท จะหาบุหรี่มาให้ 2 ซอง ตนจึงบอกว่าไม่มี พร้อมบ่น ทำให้สิบเวรไม่พอใจเปิดประตูห้องขังมาชกต่อยบริเวณใบหน้า หลัง ไหล่ขวาและคอ ก่อนเตะซ้ำลำตัวอีกหลายครั้ง จนทนไม่ไหว และบอกว่าเจ็บไหล่ที่ต้องเสริมเหล็กจากอุบัติเหตุ จากนั้นได้ขอโทรศัพท์จากเพื่อนร่วมห้องขังโทรขอความช่วยเหลือจากพ่อ แต่สิบเวรคนเดิมได้ทำร้ายร่างกายเพื่อนที่ให้ยืมโทรศัพท์ด้วย โดยในห้องขังมีผู้ต้องหานับ 10 คน เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด

ด้าน นายสายชล ผู้เป็นพ่อ กล่าวว่า หลังทราบเรื่อง เมื่อวันที่ 20 เม.ย.ที่ผ่านมา ตนได้เดินทางมาหาลูกทันที พร้อมยื่นเรื่องขอประกันตัว ก่อนจะพาไปตรวจร่างกายที่ รพ. และพาเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับสิบเวรที่ทำร้ายร่างกายลูกชาย ซึ่งต้องการให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ขณะเดียวกันได้มาขอความช่วยเหลือจาก นายภีมเดช อมรสุคนธ์ ทนายความ ให้พาเข้าพบ ผกก สภ.เมืองระยอง เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม

ต่อมา นายภีมเดช ได้พา 2 พ่อลูกเดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.พรัชต์ศรุต วัชรธนโยธิน ผกก.สภ.เมืองระยอง เพื่อขอความเป็นธรรม พร้อมขอให้ทาง ผกก.สภ.เมืองระยอง อายัดหลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิดภายในห้องขังไว้ก่อน เพื่อประกอบสำนวนดำเนินคดีกับสิบเวรที่ทำร้ายร่างกาย

ด้าน พ.ต.อ.พรัชต์ศรุต กล่าวว่า เบื้องต้นได้รายงานให้ทาง พล.ต.ต.มานะ อินพิทักษ์ รอง ผบช.ภ.2 รรก.ผบก.ภ.จว.ระยอง ทราบและมีคำสั่งให้สิบเวรคนดังกล่าว ไปปฏิบัติหน้าที่ประจำ ศปก.ภ.จว.ระยอง แล้ว ส่วนการสอบสวนเป็นไปตามขั้นตอนกฎหมาย ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งผู้เสียหายและคู่กรณีที่เป็นตำรวจ หากผิดจริง จะดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญา และเร่งรัดให้เร็วที่สุด