“สุชาติ” แปลกใจ ทำไมรัฐบาลไทย ทำตัวเป็นโฆษกพวกยึดอำนาจในเมียนมา


"สุชาติ" แปลกใจ ทำไมรัฐบาลไทย ทำตัวเป็นโฆษกพวกยึดอำนาจในเมียนมา

ข่าวการเมือง

ไทยรัฐออนไลน์

18 เม.ย. 2564 14:46 น.

บันทึก
SHARE

สุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีตหัวหน้าเพื่อไทย แปลกใจ ทำไมรัฐบาลไทย ทำตัวเป็นโฆษกให้พวกพยายามยึดอำนาจในพม่า โดยให้ข่าวว่า นายพลมิน อ่อง หล่าย จะไปประชุมผู้นำอาเซียน ถาม ไม่ทราบว่าท่านไปในฐานะอะไร มีใครรับรอง

วันที่ 18 เม.ย. ศาสตราจารย์ ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า รู้สึกแปลกใจและสงสัยเป็นอย่างมาก ที่กระทรวงการต่างประเทศไทยให้ข่าวว่า นายพลมิน อ่อง หล่าย ตอบรับจะไปประชุมผู้นำอาเซียน ในวันที่ 24 เมษายน 2564 ที่ประเทศอินโดนีเซีย ทำไมรัฐบาลไทยทำตัวเป็นโฆษกให้พวกพยายามยึดอำนาจในพม่า ไม่ทราบว่ามีประเทศใดให้การรับรองให้นายพลท่านนี้เป็นหัวหน้ารัฐบาลพม่า ท่านไปในฐานะอะไร

นายพลมิน อ่อง หล่าย นำกำลังทหารพร้อมอาวุธ พยายามยึดอำนาจการปกครองประเทศพม่า เมื่อ 1 กุมภาพันธ์ 2564 โดยอ้างเหตุผลว่า การเลือกตั้งไม่บริสุทธิ์ มีการร้องเรียน พวกนายทหารไม่กี่คนจึงต้องเข้ายึดอำนาจจาก พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (National League for Democracy: NLD) นำโดย ออง ซาน ซูจี ซึ่งเป็นพรรคที่ประชาชนเลือกตั้งมาอย่างล้นหลาม ทั้ง 2 สภา คือ สภาผู้แทนราษฎร และสภาประชาชาติ การเลือกตั้งเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2563 พรรค NLD ได้จำนวน ส.ส. และ ส.ว.มากกว่าคราวที่แล้วอีกด้วย คือ ได้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 258 ที่นั่ง จากจำนวนที่ต้องเลือกตั้ง 330 ที่นั่ง (ทหารแต่งตั้งอีก 25% คือ 110 ที่นั่ง รวมทั้งหมดเป็น 440 ที่นั่ง) สภาสูงหรือสภาประชาชาติได้ 138 ที่นั่ง จากจำนวนที่ต้องเลือกตั้ง 168 ที่นั่ง (ทหารแต่งตั้งอีก 25% คือ 56 ที่นั่ง รวมทั้งหมดเป็น 224 ที่นั่ง) ทั้ง 2 สภา พรรค NLD มีเสียงสนับสนุนประมาณ 80% “เขาจะโกงการเลือกตั้งไปทำไม” พวกนายทหารไม่กี่คนในประเทศด้อยพัฒนา มักชอบเข้าไปแทรกแซง และล้มการเลือกตั้งของประชาชนที่เป็นเจ้าของประเทศ ชอบอ้างโน่นอ้างนี่ แบบโง่เขลา ไม่สมเหตุสมผล ไม่น่าเชื่อถือ ฟังแล้วน่าขบขัน

การปฏิวัติโดยขุนศึกศักดินาที่เกิดขึ้นในโลก ล้วนทำให้ประเทศถอยหลังและล้าหลังอย่างมากมาย ดังที่เห็นกันในประวัติศาสตร์ พวกเหล่านี้ไม่ได้ทำเพื่อประชาชน แต่ทำเพื่อตัวเองและพวกพ้อง ใช้อาวุธที่ซื้อด้วยเงินภาษีประชาชน มากดขี่ข่มเหงประชาชน ทำให้ประเทศยากจนล้าหลัง นับแต่ เกาหลีเหนือ พม่า ไทย แถบตะวันออกกลาง อเมริกาใต้ และแอฟริกา จวบจนทุกวันนี้เกือบ 3 เดือนแล้ว ประชาชนพม่าทั่วประเทศทุกมุมเมือง ได้ประท้วงอย่างสันติไม่ยอมรับการยึดอำนาจมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงวันนี้ พวกกองทัพพม่าได้ใช้ทหาร เข่นฆ่าประชาชนอย่างเลือดเย็น ตายไปแล้วกว่า 700 คน บาดเจ็บเป็นจำนวนมากและจับไปขังกว่า 3,000 คน

ประเทศตะวันตก สหรัฐฯ และยุโรป ได้เรียกร้องให้ยุติการยึดอำนาจลงทันที ให้รัฐบาลที่ได้รับการเลือกตั้งมาบริหารประเทศ ได้มีการบอยคอตพวกพยายามยึดอำนาจ เช่น ยึดทรัพย์สิน ไม่ร่วมทำธุรกรรมกับบริษัทที่พวกนายพลยึดอำนาจเป็นเจ้าของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ได้ประชุมกันหลายครั้งแล้วเพื่อประณามและจัดการกับพวกพยายามยึดอำนาจในพม่า ในที่สุด คงเกิดการจัดการกับพวกเผด็จการแบบประเทศลิเบีย

หนนี้ประชาชนพม่า คงได้มีโอกาสจับเป็นพวกเหล่านี้ เอาขึ้นศาลประชาชน, ขึ้นศาลโลก เพราะระบบศักดินาขุนนางขุนศึกในพม่าได้จบสิ้นไปนานแล้ว ดูตัวอย่างได้จาก การตายของพันเอกมูอัมมาร์ กัดดาฟี ของลิเบีย, อีดี อามิน ผู้นำเผด็จการยูกันดา, ซัดดัม ฮุสเซน ผู้นำเผด็จการแห่งอิรัก, นายพลออกุสโต ปิโนเชต์ ประธานาธิบดีชิลีในสมัยรัฐบาลเผด็จการทหาร เป็นต้น

ศ.สุชาติ กล่าวต่อว่า ยังไม่เห็นมีประเทศใดประกาศรับรองพวกพยายามยึดอำนาจในพม่า จึงน่าแปลกใจและสงสัยว่า ทำไมรัฐบาลไทย จึงให้ข่าวว่า นายพลมิน อ่อง หล่าย ตอบรับไปประชุมผู้นำอาเซียน และท่านไปในฐานะอะไร แม้กระทั่งพวกพยายามยึดอำนาจในพม่าเอง ก็ไม่ได้ให้ข่าว การที่รัฐบาลไทยแสดงตัวเป็นโฆษกให้นายพลมินอ่องหล่าย จึงดูเหมือนรัฐบาลไทย ได้ให้การรับรองนายพล พวกยึดอำนาจเป็นรัฐบาลพม่าไปแล้ว เป็นการกระทำที่ดูแย่ ไร้สติปัญญา จะมีแต่ผลเสียต่อประเทศและประชาชนไทย ทั้งในด้านเศรษฐกิจและการเมืองระหว่างประเทศ

อ่านเพิ่มเติม…