พายุพัดถล่มบ้านชาวประมงพัง พ่อแม่พาลูกลงเรือ เรือก็จมแตกกระจายไปคนละทาง ผ่านไปกว่า 1 ชั่วโมง มีชาวบ้านไปพบแม่กอดศพลูกชายวัย 7 ขวบ ร้องให้ช่วยอยู่ในป่าริมคลอง

นายสุรพล เปิดเผยว่า ช่วงเวลา 03.00 น. ได้มีลมพายุซัดเข้ามาที่บ้านของตนซึ่งอยู่บริเวณปากอ่าวติดทะเล 3 ระลอก โดยพายุลูกแรกไม่ความรุนแรงเท่าไร จนกระทั่งลูกที่ 2 และลูกที่ 3 พัดเอาบ้านพังไปต่อหน้าต่อตา ซึ่งขณะนั้นได้พาลูกและภรรยาไปขึ้นเรือที่จอดอยู่ใกล้ๆ แต่ก็ถูกคลื่นซัดจนเรือจม ตนเอง พร้อมภรรยา และลูกวัย 7 ขวบถูกคลื่นซัดจมน้ำไปคนละทิศละทาง พยายามว่ายน้ำกลับเข้าฝั่งเพื่อที่จะไปนำเรืออีกลำไปช่วยลูกและเมีย แต่ก็ไม่สามารถว่ายน้ำถึงฝั่งได้ เนื่องจากคลื่นสูงและแรง จนกระทั่งว่ายกลับเข้าฝั่งได้ช่วงเวลา 04.30 น. หลังลอยคออยู่ในน้ำประมาณ 1 ชั่วโมง จนมาทราบว่าภรรยาและลูกถูกชาวบ้านช่วยเหลือไว้ แต่ลูกชายวัย 7 ขวบได้เสียชีวิตลง

น.ส.จงกล สง่างาม ภรรยานายสุรพล เล่าให้ฟังว่า พายุพัดถล่มบ้าน หลังจากบ้านพังและเรือจม ต่างคนต่างกระจายกันอยู่ในน้ำ ได้ตามหาลูก และกอดลูกไว้ตลอด จนมีเรือของชาวบ้านมาช่วย

ขณะที่ นายนที อ่ำถนอม อายุ 35 ปี ชาวบ้านที่ช่วยเหลือ 2 แม่ลูกเข้าฝั่ง เล่าว่า หลังจากพายุสงบลง ช่วงเช้าได้นำเรือออกล่องไปทำธุระ ได้ยินเสียงตะโกนขอความช่วยเหลือ และพบว่ามีหญิงคนหนึ่งกอดลูกอยู่ในป่าริมตลิ่ง สภาพเปียกปอนไปทั้งตัว จึงนำเรือเข้าช่วยขึ้นฝั่ง และแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบช่วยเหลือ.