วิสาหกิจชุมชน..ไร่อัญชิสา ฝ่าวิกฤติ..ถั่วดาวอินคา


วิสาหกิจชุมชน..ไร่อัญชิสา ฝ่าวิกฤติ..ถั่วดาวอินคา

ข่าวทั่วไทย

ไทยรัฐฉบับพิมพ์

7 พ.ค. 2564 07:01 น.

บันทึก
SHARE

ถั่วดาวอินคา ถั่วอินคา หรือ ซาจาอินจี แม้จะมีชื่อเป็นถั่วแต่เป็นไม้อายุหลายปี มีลำต้นสูงได้ถึง 2 เมตร อยู่ในวงศ์เดียวกับยางพารา ไม่ใช่วงศ์ถั่ว มีถิ่นกำเนิดในเขตแถบอเมริกาใต้บริเวณประเทศเปรู แต่ปัจจุบันมีการปลูกเชิงพาณิชย์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งบ้านเรา โดยผ่านมาทางจีน เข้ามาลาว และเข้าสู่ประเทศไทย เพราะที่ประเทศจีน ในเขตสิบสองปันนา มณฑลยูนนาน มีการส่งเสริมให้ปลูกเพื่อนำเมล็ดมาสกัดน้ำมัน

ด้วยเป็นพืชที่สามารถนำทุกส่วนมาใช้ประโยชน์ในรูปแบบสมุนไพรเพื่อสุขภาพ เพราะมีโปรตีนสูงถึง 27% ในไขมันมีโอเมก้า 3, 6, 9 สูง มีสารต้านอนุมูลอิสระ มีวิตามินเอและอี ใบอ่อนยอดอ่อนสามารถนำมาประกอบอาหารได้ ใบแก่ เปลือกฝักนำมาตากแห้งต้มน้ำร้อนชงดื่มเป็นชาได้ เปลือกเมล็ดทำปุ๋ยหมัก ส่วนเมล็ด (ทานดิบไม่ได้เพราะมีพิษ) แต่ถ้านำมาคั่วไฟให้สุกสามารถรับประทานได้เหมือนถั่ว และเมล็ดยังสามารถนำมาสกัดเป็นน้ำมันได้

ข่าวแนะนำ


ในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา “ถั่วดาวอินคา” จึงเป็นพืชอีกชนิดที่ถูกพูดถึงกันมาก มีเอกชนนำเมล็ดพันธุ์มาขายส่งเสริมให้เกษตรกรปลูก ด้วยคำสัญญาหวานหู ซื้อเมล็ดพันธุ์ไปปลูกเท่าไร รับซื้อผลผลิตทั้งหมด…แต่สุดท้ายลงเอย ถูกพ่อค้าหลอกต้ม เพราะเขาหวังแค่ขายเมล็ดพันธุ์ ลวงเงินจากกระเป๋าชาวบ้านแบบเดิมๆ เท่านั้นเอง

“เมื่อก่อนคนที่นี่ทำมาหากินด้วยการปลูกข้าวโพด ลงทุนแต่ละครั้งแทบไม่เหลือกำไรเลย เพราะปัจจัยการผลิตทุกอย่าง ไม่ว่า เมล็ดพันธุ์ ปุ๋ย ยาเราต้องไปเอามาจากนายทุนก่อน พอถึงเวลาเก็บเกี่ยว เขาจะมาหักค่าใช้จ่ายแบบหักต้นบวกดอกเบี้ยที่แพงมาก ที่บ้านปลูกข้าวโพด 30 ไร่ ทำไปแล้วนอกจากแทบจะไม่ได้กำไร เหมือนทำงานให้นายทุนฟรีๆ บางปียังขาดทุน 2-3 หมื่นบาทอีกต่างหาก ชาวบ้านหมดความอดทนที่จะปลูกข้าวโพดอีกต่อไป แต่ไม่รู้ว่าจะหาพืชอะไรมาปลูกที่มันจะขายได้ และไม่ต้องใช้สารเคมีเพราะเราห่วงเรื่องสุขภาพของตัวเองเหมือนกัน


ปี 2560 มีพ่อค้าเข้ามาแนะนำให้เราปลูกถั่วดาวอินคา ขายเมล็ดพันธุ์ให้ในราคา กก.ละ 300 บาท พร้อมกับทำสัญญาประกันราคารับซื้อผลผลิต กก.ละ 20 บาท ปลูกไปแล้ว 1 ไร่ จะได้ผลผลิต 500-1,000 กก. แถมการปลูก ปุ๋ยยาไม่ต้องใช้ เพราะพืชชนิดนี้ไม่ชอบสารเคมี เราคำนวณดูแล้ว ปลูกแค่ไร่เดียวได้เงินเกือบ 2 หมื่น ดีกว่าปลูกข้าวโพด 30 ไร่ ที่ไม่ได้อะไรเลย แถมปลูกถั่วดาวอินคาต้นทุนค่าปุ๋ยยาไม่มี มีคนรับซื้อถึงที่ ไม่ต้องไปเร่ขาย กำไรเห็นเป็นกอบเป็นกำ ที่สำคัญเขามีหนังสือสัญญารับซื้อให้เราอีกต่างหาก ทั้งหมู่บ้าน 100 หลังคาเรือน เฮโลกันซื้อเมล็ดไปปลูกกันทุกคน รวมแล้ว 700-800 กก. เมล็ดพันธุ์ ปลูกปีแรกไม่มีปัญหา เขามารับซื้อจริง แต่พอเข้าปีที่ 2 ผลผลิตเราเพิ่มจาก 6 ตัน ขึ้นเป็น 11 ตัน พ่อค้าหนีหายไม่กลับมาอีกเลย ถั่วดาวอินคาที่มี ไม่รู้จะเอาไปขายที่ไหนต้องเททิ้ง หลายคนเสียใจถึงกับโค่นต้นทิ้งไปก็มี”


น.ส.อัญชิสา กลิ่นบุนนาค เกษตรกรชาวเขาเผ่าอาข่า ประธานวิสาหกิจชุมชนไร่อัญชิสา บ.แม่งาวใต้ ต.บ้านร้อง อ.งาว จ.ลำปาง เล่าความหลังอันเจ็บปวดของชีวิตเกษตรกรในพื้นที่สูง มักถูกหลอกต้มเป็นอาจิณ แต่ด้วยเป็นคนที่พอมีความรู้ เรียนจบปริญญาตรี จึงขวนขวายหาวิธีแก้ปัญหาให้กับครอบครัวและคนในชุมชน…สรุปสุดท้ายนั่นคือ ต้องหาวิธีแปรรูปถั่วดาวอินคาให้เป็นผลิตภัณฑ์สินค้า

“ตอนแรกก็ยังงงๆอยู่เหมือนกันว่า ถั่วดาวอินคา มันคืออะไร เอาไปทำอะไรได้ ในที่สุดต้องพึ่งพาโลกโซเชียลถามเพื่อนๆ ในเฟซบุ๊ก จึงได้รู้ว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย และมีคนต้องการจะซื้อ และเมื่อค้นหาข้อมูลผ่านทางกูเกิล ยิ่งได้รู้สามารถแปรรูปได้ จึงชักชวนเพื่อนบ้านและญาติพี่น้อง 7 คน ก่อตั้งวิสาหกิจชุมชนไร่อัญชิสา เพื่อร่วมกันแปรรูปถั่วดาวอินคา เมื่อปลายปีที่แล้ว ตอนนี้สินค้าของเรายังมีเพียง 2 ชนิด คือ ใบและเปลือกฝักที่สามารถนำไปต้มดื่มเป็นชา กับเมล็ดถั่วดาวอินคาคั่วอบเกลือ สำหรับในอนาคตถ้ารายได้เข้ามาเยอะ มีทุนมากพอ เราจะลงทุนแปรรูปเป็นน้ำมันถั่วดาวอินคาสกัดเย็น”


นั่นเป็นความหวังที่วิสาหกิจชุมชนแห่งนี้ฝันไว้…แต่กระนั้นวันนี้ แม้กิจการจะไม่ได้ใหญ่โตอะไรมากมายนัก อัญชิสา บอกว่า การรวมกลุ่มทำเป็นวิสาหกิจชุมชนจนมีผลิตภัณฑ์เป็นของตัวเอง ได้ทำให้ชาวบ้านมีความสุขมาก ไม่เพียงจะมีวิสาหกิจชุมชนฯคอยรับซื้อผลผลิตในราคา กก.ละ 25-30 บาท กระบวนการแปรรูป ยังมีการจ้างงานให้คนในหมู่บ้านทำงานแปรรูป แกะเปลือก กะเทาะเมล็ด โดยเฉพาะหลังเก็บเกี่ยวผลผลิต ที่ชาวบ้านมักจะว่างงานไม่มีงานให้ทำ

สนใจที่จะอุดหนุนสินค้าเพื่อให้วิสาหกิจชุมชนไร่อัญชิสา ได้เติบโตอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน ติดต่อไปได้ที่ Line : 0654291691 หรือ FB : ชาดาวอินคา ชาออแกนิคแท้ 100% ไร่อัญชิสา.


ชาติชาย ศิริพัฒน์

อ่านเพิ่มเติม…