รองอธิบดีกรมอุทยานฯ เผยจับชาวกะหร่าง 22 คนรุกป่าแก่งกระจานตามหมายจับ


รองอธิบดีกรมอุทยานฯ เผยจับชาวกะหร่าง 22 คนรุกป่าแก่งกระจานตามหมายจับ

ข่าวทั่วไทย

ไทยรัฐออนไลน์

6 มี.ค. 2564 14:23 น.

บันทึก
SHARE

รองอธิบดีกรมอุทยานฯ แจงจับกุมลูกปู่คออี้ และชาวกะหร่างรวม 22 คน รุกป่าตามหมายจับ โดยปรับผู้บุกรุกใหม่ 27 ราย พบมีการบุกรุกพื้นที่ใหม่อีก 2 แปลง รวมทั้งหมด 157 แปลง มูลค่าเสียหายว่า 23 ล้านบาท

จากกรณี เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน สนธิกำลังตำรวจ-ทหาร นำเฮลิคอปเตอร์ จำนวน 3 ลำ นำหมายจับจากศาลจังหวัดเพชรบุรี บินขึ้นไปรับลูกชายปู่คออี้กับพวกทั้งหมด 22 คน ลงมาจากพื้นที่ป่า อช.แก่งกระจาน ช่วงรอยต่อกับประเทศเมียนมา บ้านบางกลอยบน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี หรือ บริเวณที่เรียกว่า “ใจแผ่นดิน” เพื่อให้กลับบ้านบางกลอยล่าง ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวกลุ่มชาติพันธุ์ ประมาณ 80 คน ซึ่งประกอบด้วยผู้ต้องหาตามหมายจับ 20 คน และกลุ่มชาติพันธุ์ ที่อยู่รวมกันทั้งเด็กและผู้หญิง ทยอยเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์รวม 35 เที่ยวบิน ลงมาควบคุมตัวอยู่ที่ อาคารหอประชุมอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน

ข่าวแนะนำ


ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ได้บินขึ้นไปที่ใจแผ่นดินมาแล้ว 3 ครั้งตั้งแต่วันที่ 22 ก.พ.64 เพื่อเจรจาขอให้กลุ่มผู้บุกรุกลงมาโดยนำเฮลิคอปเตอร์ไปรับ หลายครอบครัวพากันอพยพจากบ้านบางกลอยล่างขึ้นไปที่บริเวณ “ใจแผ่นดิน” เมื่อประมาณกว่า 2 เดือนที่ผ่านมา มีส่วนหนึ่งยอมกลับลงมา แต่อีกประมาณกว่า 50 คนที่มีนายนอแอ๊ะ มีมิ บุตรชายของนายคออี้ มีมิ รวมอยู่ด้วยไม่ยอมกลับลงมา ขณะเดียวกันเมื่อเจ้าหน้าที่นำเฮลิคอปเตอร์ขึ้นไปสำรวจ พบว่าป่าบริเวณใจแผ่นดินซึ่งเป็นป่าต้นน้ำของแม่น้ำเพชรบุรีและแม่น้ำปราณบุรี ถูกบุกรุกแผ้วถางขยายวงเพิ่มขึ้น เมื่อเจรจาไม่เป็นผล จึงจำต้องแจ้งความดำเนินคดี และขออำนาจศาลออกหมายจับ การขึ้นไปจับกุมครั้งนี้ไม่มีการใช้กำลังต่อผู้ถูกจับกุมแต่อย่างใด


ขณะที่ นายเกรียงไกร ชีช่วง ผู้ประสานงานเครือข่ายกะเหรี่ยงเพื่อวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม เขตงานตะนาวศรี นำกลุ่มชาติพันธุ์จาก อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี กว่า 50 คน มาที่ที่ทำการอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน รวมตัวกันที่ร้านอาหารสวัสดิการของอุทยานฯ อ้างว่ามาเพื่อต้องการพบกลุ่มชาวกะเหรี่ยงที่ถูกควบคุมตัว อ้างว่าการที่กลุ่มกะเหรี่ยงกลับขึ้นไปที่ใจแผ่นดินเป็นสิทธิมนุษยชนที่สามารถทำได้



ขณะเดียวกันก็มี นายบุญชู วงศ์น้อย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 12 ต.แก่งกระจาน อ.แก่งกระจาน กับชาวบ้านประมาณกว่า 20 คน ถือป้าย “SAVE แก่งกระจาน” บอกว่าขอสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ และว่าที่ดินที่รัฐจัดให้มาแต่เดิมคนละ 7 ไร่ น่าจะเพียงพอแล้ว ไม่อยากให้คนกลุ่มนี้กลับไปบางกลอยบนอีก เพราะเป็นห่วงป่าไม้จะถูกทำลายขยายวงมากขึ้น และเป็นภัยต่อความมั่นคง เนื่องจากมีชาวเมียนมาลักลอบเข้ามาในพื้นที่ดังกล่าวด้วย ส่วนบริเวณพื้นที่รัฐจัดให้คนละ 7 ไร่ที่บางกลอยล่างบางแห่งเพียงพอต่อการทำมาหากิน บางแห่งก็ถูกปล่อยทิ้งร้าง ไม่มีการทำประโยชน์แต่อย่างใด



เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (5 มี.ค.64) นายประกิต วงศ์ศรีวัฒนกุล รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ พร้อมด้วย พ.ต.อ.จิรัฏฐ์ โรจน์บวรวิทยา ผกก.สภแก่งกระจาน ได้แถลงผลการจับกุมชาติพันธุ์ชาวกะเหรี่ยง (กะหร่าง) บุกรุกป่าบางกลอยบน โดยขั้นตอนเป็นไปตามกฎหมาย โดยใช้วิธีการละมุนละม่อมไม่มีการใช้กำลัง เจ้าพนักงานชุดจับกุม ประกอบไปด้วย อช.แก่งกระจาน ฉก.หน่วยพญาเสือ หน่วยทหารทัพพระยาเสือ หน่วยทหารรบพิเศษแก่งกระจานที่ 1 หน่วย ตชด. 144 ฝ่ายปกครองอำเภอแก่งกระจาน ตำรวจภูธร สภ.แก่งกระจาน อส, ผู้ใหญ่บ้าน และแพทย์ พยาบาล รพ. แก่งกระจานได้ใช้เฮลิคอปเตอร์จำนวน 3 ลำ ทยอยนำตัวผู้ต้องหาชาวกระหร่างที่บุกรุกป่าบางกลอยบน และชาวบ้านที่อยู่ในรวมจำนวน 87 รายพื้นที่ เดินทางมายังที่ทำการเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน พร้อมได้ให้แพทย์ทำการตรวจสุขภาพ ตรวจคัดกรองโควิด 19 และตรวจ DNA พิสูจน์บุคคล ก่อนที่จะนำมาทำการสอบสวน โดยใช้พนักงานสอบสวนทั้งหมดจำนวน 19 นาย โดยมีทนายความ และล่ามแปลคำให้การ ใช้สถานที่สอบสวนเป็นห้องประชุมอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน


การจับกุมครั้งนี้ สามารถจับกุมผู้กระทำผิดตามหมายจับได้รวม 22 คน เป็น ชาย 15 คน (มีนายนอแอ๊ะ มิมิ ลูกนายคออี้ รวมอยู่ด้วย) หญิง 7 คน โดยจำนวน 20 คน จับกุมได้ในพื้นที่บ้านบางกลอยบน ส่วน ชาย 1 คน จับได้ขณะล่องแพจากป่าบางกลอยบนลงมาตามแม่น้ำเพชรบุรี ส่วนชายอีก 1 รายจับกุมได้ขณะมาร่วมชุมนุมกับกลุ่มชาวบ้านที่บริเวณหน้าที่ทำการอุทยานฯ โดยพนักงานสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 22 คนเสร็จและขอศาลจังหวัดเพชรบุรีฝากขัง ศาลอนุญาต ฝากขัง ครั้งที่ 1 กำหนด 12 วัน ณ เรือนจำกลางเพชรบุรี

นอกจากนี้ ในส่วนของผู้บุกรุกรายอื่น ที่ยังไม่มีการออกหมายจับ เจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบสวน และทำการบันทึกการจับกุมข้อหาบุกรุกอุทยานฯ และกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ และนำส่งพนักงานสืบสวน สภ.แก่งกระจาน เปรียบเทียบปรับ จำนวน 27 คน เป็นชาย 12 คน หญิง 15 คน ส่วนที่บุคคลที่เป็นเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี จำนวน 36 คน ประกอบด้วยเด็กชาย 18 คน เด็กหญิง 18 คน ได้นำส่งผู้ปกครอง จากนั้นส่งตัวกลับหมู่ 1 บ้านบางกลอย โดยรถยนต์ โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ผู้ใหญ่บ้าน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านรับตัวและนำเดินทางกลับ


นายประกิต เปิดเผยว่า ขณะเจ้าหน้าที่บินเฮลิคอปเตอร์ปฏิบัติหน้าที่วันนี้ ได้มีการตรวจสอบพบป่าถูกบุกรุกแผ้วถางใหม่อีก 2 แปลง เป็นการแผ้วถางใหม่ที่ยังไม่มีการเผาทำลายต้นไม้ที่ถูกโค่น รวมพบพื้นที่ถูกบุกรุกทั้งหมดขณะนี้ 157 แปลง ประเมินมูลค่าความเสียหาย กว่า 23 ล้านบาท.

อ่านเพิ่มเติม…