ปฏิเสธไม่ได้ว่าการเติบโตของเทคโนโลยีมีส่วนสำคัญที่พาให้โลกเรารุดหน้าไปด้วยความเร็วเกินคาดคิด และหนึ่งในวงการที่มีการพัฒนาด้านนวัตกรรมมาอย่างต่อเนื่องก็คือ “รถยนต์” ที่ในปัจจุบันได้ก้าวข้ามเทรนด์มาแล้วหลายรูปแบบ และกำลังจะมุ่งหน้าสู่ยุคการขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า ที่กำลังเริ่มได้รับความสนใจมากขึ้น

รถยนต์ไฮบริดคืออะไร? ทำไมถึงประหยัด

รถยนต์ไฮบริด (Hybrid electric vehicle – HEV) คือ เทคโนโลยีการขับเคลื่อนที่ถูกพัฒนามากว่า 20 ปี โดยหลักแล้ว คือการขับเคลื่อนแบบผสมผสานด้วยเครื่องยนต์สันดาปและมอเตอร์ไฟฟ้า เพื่อสนับสนุนการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการประหยัดพลังงาน ซึ่งทั้งสองระบบจะทำงานสอดรับกันดังนี้

1. ขณะสตาร์ตเครื่องยนต์ หรือออกตัว

มอเตอร์ไฟฟ้าจะเป็นกำลังหลักโดยการส่งพลังงานจากแบตเตอรี่เพื่อใช้ในการขับเคลื่อน ซึ่งจะช่วยประหยัดเชื้อเพลิงอย่างมาก

2. เมื่อขับขี่ด้วยความเร็วคงที่

ทั้งระบบเครื่องยนต์และระบบไฟฟ้าจะทำงานร่วมกันในจังหวะที่เหมาะสม เพื่อลดปริมาณการใช้เชื้อเพลิงที่ไม่จำเป็น นอกจากนั้นพลังงานส่วนเกิน เช่น เมื่อขณะชะลอความเร็วรถ ยังถูกแปลงเป็นพลังงานไฟฟ้าส่งกลับไปสะสมในแบตเตอรี่ เป็นเหตุผลให้รถยนต์ไฮบริดไม่จำเป็นต้องชาร์จไฟจากภายนอก

3. ขณะเร่งเครื่องยนต์เพื่อแซงหรือทำความเร็ว

มอเตอร์ไฟฟ้าจะเข้ามาช่วยสนับสนุนเครื่องยนต์แบบเต็มกำลัง เพื่อส่งอัตราเร่งให้สูงสุดในพริบตา ลดปัญหาการรอรอบ หรือการเร่งไม่ขึ้น และยังทำให้ลดการใช้เชื้อเพลิงลงได้อีกทางหนึ่ง

นอกเหนือจากนี้อาจจะมีบางค่ายที่ออกแบบระบบต่างออกไปบ้างเล็กน้อย เช่นการเพิ่มทางเลือกให้ผู้ขับขี่สามารถสลับการทำงานระหว่างเครื่องยนต์กับมอเตอร์ไฟฟ้าได้ตามเงื่อนไข อย่างไรก็ตาม จะเห็นได้ว่าไม่ว่าในการขับขี่สถานการณ์ใด การทำงานร่วมกันของสองระบบจะให้สมรรถนะการขับขี่ที่ดีขึ้น ทั้งการประหยัดเชื้อเพลิง และยังลดภาระการทำงานของเครื่องยนต์ ช่วยถนอมให้มีอายุยาวนานกว่ารถยนต์ปกติ ซึ่งจะเห็นผลได้ชัดเจนในระยะยาว อีกทั้งทำให้มั่นใจได้เลยว่ารถยนต์ไฮบริดจะสามารถตอบสนองได้ทุกความต้องการ ทำให้ขับเพลินไม่ว่าจะในเมืองหรือนอกเมือง และยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ต่ำอีกด้วย

เลือกไฮบริด ไม่ต้องคิดมากเรื่องการเดินทาง

การที่รถยนต์ไฮบริดยังคงใช้งานเครื่องยนต์เชื้อเพลิงอยู่บ้าง อาจเรียกได้ว่าเป็นจุดแข็งที่สุดที่ทำให้ระบบนี้ค่อนข้างเหมาะสมกับการขับขี่ในวันนี้ โดยข้อดีของมันก็มีอยู่มาก ยกตัวอย่างเช่น ผู้ใช้งานที่เคยชินกับรถยนต์ปกติมาทั้งชีวิตก็สามารถขับรถยนต์ไฮบริดได้เลยโดยไม่ต้องปรับตัวให้มากมาย เรียกได้ว่าทุกอย่างยังคงเดิม เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน เพราะระบบไฟฟ้าที่ติดตั้งมาพร้อมกันจะสามารถชาร์จไฟเติมเข้าแบตเตอรี่ได้เองขณะขับขี่ ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องหาสถานที่เติมไม่ได้ เวลาเดินทางไปสถานที่ไกลๆ

หลากรุ่น หลายแบรนด์ ราคาเป็นมิตร คุ้มค่าระยะยาว

จนถึงตอนนี้รถยนต์ไฮบริดถือได้ว่าเข้ามาทำตลาดเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว ทำให้ปัจจุบันมีตัวเลือกให้ผู้ใช้งานมองหาจำนวนมาก ตอบโจทย์ความต้องการได้ตรงใจทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นแนวซิตี้คาร์ ไปจนถึงรถครอบครัว SUV ก็มีให้เลือกมากมายในตลาด

นอกเหนือไปกว่านั้นที่สำคัญไม่น้อยคือปัจจัยด้านราคา ซึ่งรถยนต์ไฮบริดค่อนข้างจะเชื้อเชิญให้เข้าไปสัมผัสได้ง่ายมากขึ้น ด้วยราคาเริ่มต้นไม่ถึงหนึ่งล้านบาท อีกทั้งยังใช้งานง่าย ได้ประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม มีนวัตกรรมใหม่ๆ ที่อัดแน่น รวมไปถึงความประหยัดหลังจากนี้ไปอีกยาวๆ ทั้งเรื่องของค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิง และการบำรุงรักษา ซึ่งไม่ได้แตกต่างกับระบบทั่วไปมากนักก็นับว่าคุ้มค่า

นอกจากนั้นในส่วนของแบตเตอรี่ไฟฟ้าที่หลายคนอาจกังวลใจว่าจะทนทานหรือไม่ ซึ่งในแต่ละแบรนด์ก็ยังมีการรับประกัน หากต้องมีการเปลี่ยนใหม่ ก็มั่นใจได้ว่าแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์จะมีราคาที่ถูกลงเรื่อยๆ อย่างแน่นอนด้วยปริมาณความต้องการของตลาดที่กำลังเพิ่มมากขึ้นทุกขณะ รวมถึงผลพวงจากนโยบายภาครัฐที่กำลังมุ่งสนับสนุนเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วยเช่นกัน

ตอบโจทย์ปัจจุบัน พร้อมรองรับการใช้งานในอนาคต

แน่นอนว่าการเลือกซื้อรถยนต์สักคันคือการตัดสินใจครั้งใหญ่ของใครหลายๆ คน ทำให้บางส่วนอาจมีความกังวลอยู่บ้างหากจะเลือกใช้งานรถยนต์ไฮบริดที่มีเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างไรก็ตามหากได้ลองสัมผัสด้วยตัวเองเข้าสักครั้ง ก็จะพบว่าในแง่การใช้งาน รถยนต์ไฮบริดเองก็ไม่ได้แตกต่างกับรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปมากนัก และยังมาพร้อมคุณสมบัติที่จะช่วยให้การขับขี่ทั้งในเมืองและนอกเมืองมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้ชีวิตแต่อย่างใด ได้ทั้งความประหยัด และยังมีส่วนช่วยในการรักษาสิ่งแวดล้อมอีกทางหนึ่ง ด้วยเหตุนี้ หากคุณกำลังมองหารถยนต์คันต่อไป ที่เหมาะสมกับการใช้งานในวันนี้มากที่สุด รถยนต์ไฮบริดอาจเป็นตัวเลือกที่ใช่สำหรับคุณก็เป็นได้