มอบ สทนช.-กระทรวงการต่างประเทศถกจีนบริหารจัดการแม่น้ำโขง


มอบ สทนช.-กระทรวงการต่างประเทศถกจีนบริหารจัดการแม่น้ำโขง

ข่าวสังคม

ไทยรัฐออนไลน์

21 เม.ย. 2564 14:43 น.

บันทึก
SHARE

พล.อ.ประวิตรนำประชุมคณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติ พบทุกวันนี้ แม่น้ำโขงมีสภาวะผันผวนส่งผลกระทบประชาชนริมฝั่ง ให้ สทนช.และบัวแก้วไปประสานกับจีนร่วมกันบริหารจัดการ

เมื่อวันที่ 21 เม.ย. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทย ครั้งที่ 1/2564 ณ ทำเนียบรัฐบาล ปัจจุบันแม่น้ำโขงมีสภาวะผันผวนจากหลายปัจจัยส่งผลกระทบต่อประชาชนริมฝั่ง ซึ่งจากคาดการณ์กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) พบปริมาณน้ำช่วงเดือน เม.ย. ถึง พ.ค.2564 ช่วงรอยต่อระหว่างฤดูร้อนกับฤดูฝนอาจจะเกิดการผันผวนของปริมาณน้ำในแม่น้ำโขงอีกครั้ง เนื่องจากปริมาณฝนในปีนี้จะมีมากและมาเร็วในช่วงต้นฤดูฝน ที่ประชุมจึงมีมติให้ สทนช. และกระทรวงการต่างประเทศประสานกับจีน เพื่อหาข้อสรุปร่วมกันในการบริหารจัดการน้ำจากแม่น้ำล้านช้างสู่แม่น้ำโขง พร้อมเร่งรัดให้มีการจัดทำบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการ ระหว่างไทยและลาวให้เสร็จโดยเร็ว

ข่าวแนะนำ

นอกจากนั้น ที่ประชุมยังติดตามแนวทางแก้ไขปัญหาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศแม่น้ำโขงต่อวิถีชีวิตประชาชนลุ่มแม่น้ำโขง 7 จังหวัด จากการหารือระหว่างสมาคมเครือข่ายสภาองค์กรชุมชนลุ่มน้ำโขง 7 จังหวัดภาคอีสาน กับผู้แทนส่วนราชการ เพื่อพิจารณากำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาตามข้อเรียกร้อง 7 ข้อ เมื่อวันที่ 11 มี.ค.ที่ผ่านมา โดยวันนี้ได้มอบหมายให้ สทนช. ดำเนินการศึกษาผลกระทบที่เกิดขึ้นในลำน้ำโขงอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง ร่วมกับภาคประชาชนและหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดทำแผนป้องกันและบรรเทาผลกระทบเสนอต่อคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ให้ความเห็นชอบ และมีมติให้สำนักงบประมาณพิจารณาสนับสนุนงบประมาณในการทำกิจกรรมดังกล่าวต่อไปด้วย

นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการ สทนช. กล่าวว่า การประชุมวันนี้ ยังได้มีการพิจารณาสถานะกระบวนการปรึกษาหารือล่วงหน้าภายใต้ระเบียบปฏิบัติ คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง เรื่องการแจ้ง การปรึกษาหารือล่วงหน้า และข้อตกลง (PNPCA) โครงการไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนสานะคามในลาว รวมถึงการดำเนินการในขั้นตอนต่อไป นอกจากนี้ ในส่วนของแผนพัฒนาเขื่อนไฟฟ้าพลังน้ำในแม่น้ำโขง ที่ประชุมได้พิจารณาเห็นชอบให้มีการศึกษาร่วมกัน เพื่อกำหนดพื้นที่รับประโยชน์ให้ชัดเจน โดยโครงการที่เสนอจะต้องไม่ซ้อนทับกับพื้นที่รับประโยชน์ของโครงการในประเทศ และมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศช่วยเร่งผลักดันการศึกษาร่วมที่จะเกิดขึ้น.

อ่านเพิ่มเติม…