ระบาดไม่หยุด คลัสเตอร์สถานบันเทิงทำ จ.พิษณุโลก ติดโควิด-19 เพิ่มอีก 4 ราย พบไทม์ไลน์ จนท.เรือนจำพิษณุโลก เดินทางไปทั่วทั้ง กทม. ย่านเอกมัย ไป จ.ตราด จันทบุรี ระยอง สิงห์บุรี ต้องกักตัวผู้สัมผัสอีก 31 ราย

ส่วนไทม์ไลน์ของเจ้าหน้าที่เรือนจำ จ.พิษณุโลก คือ วันที่ 26 มี.ค. ได้เดินทางไปพักโรงแรมซอแรนโต จ.ขอนแก่น กับแฟนสาว 27 มี.ค. บริจาคเลือดที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ 28 มี.ค. กลับบ้านพัก จ.พิษณุโลก ช่วงเวลา 19.00 น. วันที่ 29 มี.ค. ทำงานที่เรือนจำตามปกติ 31 มี.ค. เดินทางไป กทม. เข้าพักโรงแรมแถวเอกมัย 19 ออกมากินข้าวที่ The cassette music bar และกินข้าวต้มร้านดังแถวเอกมัย และกลับเข้าพักโรงแรม วันที่ 1 เม.ย. ไปทำงานที่เรือนจำชั่วคราวเขาระกำ จ.ตราด พักโรงแรมใน จ.ตราด ด้วยกัน 5 คน 2 เม.ย. เดินทางไปหาดเจ้าหลาว จ.จันทบุรี พักโรงแรมในจังหวัด 3 เม.ย. เดินทางไปตลาดบ้านเพ จ.ระยอง ทัณฑสถานเปิดห้วยโป่ง จ.ระยอง พบกับคนสนิทในพื้นที่ 7 คน กินข้าวเย็นร้านแม่ลาปลาเผา จ.สิงห์บุรี กลับถึง จ.พิษณุโลก 4 เม.ย. พักอยู่บ้าน จ.พิษณุโลก 5 เม.ย. รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว มีไข้ 37.8 องศา ช่วงเช้าเข้าทำงานที่เรือนจำ ห้องเยี่ยมญาติด้านนอก ดูข่าวพบผู้ป่วยที่ร้าน The cassette music bar จำนวน 3 ราย เวลา 14.00 น. จึงเดินทางไปตรวจเชื้อที่โรงพยาบาลเอกชน จนทราบผลติดเชื้อโควิด-19

รอง ผวจ.พิษณุโลก กล่าวต่อว่า สำหรับ มาตรการป้องกันควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สำหรับผู้เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง ด้วยสถานการณ์โรคติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทยขณะนี้พบผู้ติดเชื้อเป็นกลุ่มก้อน (Cluster) ในหลายพื้นที่ โดยผู้ติดเชื้อมีความเกี่ยวข้องกับสถานบันเทิงหลายแห่ง ทั้งในกรุงเทพฯ นนทบุรี นครปฐม ซึ่งปัจจุบัน จ.พิษณุโลก มีผู้เดินทางเข้า-ออกพื้นที่เสี่ยงจำนวนมาก จึงมีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อดังกล่าว ในการนี้ จ.พิษณุโลก ขอให้นายอำเภอทุกอำเภอ กำชับมาตรการป้องกันควบคุมโรคติดเชื้อโควิด-19 โดยประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำชับมาตรการ 5 เสือ และผู้นำชุมชน ดำเนินมาตรการป้องกันควบคุมโรคติดเชื้อโควิด-19 อย่างเคร่งครัด และเน้นย้ำการลงทะเบียน SAVE PHITSANULOK โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง จึงขอเตือนและเน้นย้ำด้วยความห่วงใย

ด้าน นพ.ไกรสุข เพชระบูรณิน นายแพทย์สาธารณสุข จ.พิษณุโลก กล่าวว่า ผู้ที่ติดเชื้อโควิด-19 ของ จ.พิษณุโลก ยืนยันแล้ว 4 ราย และตรวจสอบพบมีผู้ที่เสี่ยงสูง 21 ราย และผู้เสี่ยงต่ำอีก 10 ราย รวม 31 ราย ได้ทำการแยกให้กักตัวเพื่อรอดูอาการและตรวจโดยละเอียดอีกครั้ง ในส่วนของเรือนจำมีมาตรการให้ทำความสะอาดใหญ่ แยกผู้ต้องขัง ผู้คุม ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องออกไม่ให้ไปปะปนกัน และถ้ามีผู้ป่วยมากขึ้นอาจต้องเปิดโรงพยาบาลสนาม ในส่วนสถานที่ข้างนอกที่เป็นสถานที่เสี่ยง พวกผับ บาร์ ทาง จ.พิษณุโลก จะมีการประชุมวางมาตรการต่อไป ส่วนโรงพยาบาลพุทธชินราช มีเตียงรองรับผู้ป่วยหากเกิดการระบาดได้ 30-50 เตียง

จ.พิษณุโลก ได้รับการจัดสรรวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 (Sinovac) ระยะที่ 1 จำนวน 1,800 โดส เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันโรคให้กับบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข จำนวน 800 โดส (400 คน) และให้กับอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) จำนวน 1,000 โดส (500 คน) โดยสำนักงานสาธารณสุข จ.พิษณุโลก จะดำเนินการจัดสรรวัคซีนให้กับทุกโรงพยาบาลในสังกัด ตามสัดส่วนจำนวนบุคลากรและสัดส่วนของอาสาสมัครสาธารณสุข เพื่อการสร้างภูมิคุ้มกันโรคแก่บุคลากรด่านหน้าที่เสียสละและมีความเสี่ยงต่อโรค ให้สามารถปฏิบัติงานรักษาพยาบาลผู้ป่วยและป้องกันควบคุมโรคได้อย่างปลอดภัย โดยจะมีการจัดสรรเพิ่มเติมอีกครั้งในเดือนมิถุนายน 2564 เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันสำหรับประชาชนเป้าหมายทุกคนใน จ.พิษณุโลก

โดยในวันที่ 7 – 8 เม.ย. โรงพยาบาลพุทธชินราช จะทำการฉีดวัคซีนเข็มแรกให้แก่ผู้บริหารหน่วยงานและสถานบริการสาธารณสุข บุคลากรของโรงพยาบาลพุทธชินราช โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล สำนักงานสาธารณสุข และศูนย์วิชาการในจังหวัด จำนวน 230 คน และ อสม.สาธารณสุขในเขต อ.เมืองพิษณุโลก จำนวน 122 คน และจะฉีดเข็มที่ 2 ในวันที่ 29 เม.ย. ด้วย 8 ขั้นตอนที่เป็นมาตรฐานและมีความปลอดภัย เพื่อพัฒนาระบบการฉีดและนำร่องให้เป็นตัวอย่างแก่โรงพยาบาลชุมชนในอำเภอต่างๆ ที่เข้าร่วมศึกษารูปแบบในวันนี้ และจะดำเนินการฉีดแก่บุคลากรและ อสม.สาธารณสุขในพื้นที่เป็นต้นไป.