ผบช.ภาค 1 ลงพื้นที่ติดตามคดีเหตุสุดสะเทือนขวัญ ตำรวจฆ่าเผานั่งยางแฟนสาวเหลือแต่กระดูก นำไปทิ้งแม่น้ำเจ้าพระยา หวังอำพรางคดี รับเกิดจากหึงหวงและมีปัญหาเรื่องเงิน เบื้องต้นโดนหลายข้อหาหนัก เตรียมส่งฝากขังศาลพรุ่งนี้

จากนั้นเวลา 03.30 น. ขณะที่ น.ส.ธัญญ์นิศา วิชนันท์คุณนิธิ ผู้เสียชีวิตนอนอยู่ในบ้านดังกล่าว ส.ต.อ.ปิยะ นาโควงค์ ได้ใช้หมอนกดที่บริเวณศีรษะของผู้ตายขณะที่นอนคว่ำหน้าอยู่บนที่นอน จนเป็นเหตุให้เสียชีวิต จากนั้นเวลา 03.45 น. ส.ต.อ.ปิยะ นาโควงค์ ได้นำถุงทะเลบรรจุศพของผู้ตายแล้วได้นำขึ้นรถจักรยานยนต์หมายเลขทะเบียนป้ายแดง 5-1097 จังหวัดลำพูน บรรทุกร่างผู้ตายไว้ด้านหน้าในลักษณะคร่อมถังน้ำมัน ไปที่อาคารฝึกสุนัขดมกลิ่น ภายใน ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งห่างจากบ้านที่เกิดเหตุ 500 เมตร จากนั้นได้นำศพไปเก็บไว้ในสถานที่ดังกล่าว และได้นำรถยนต์กระบะยี่ห้อ Isuzu สีแดง หมายเลขทะเบียน ตราโล่ 23463 ของทางราชการมาบรรทุกศพผู้ตาย และเข้าไปหยิบยางรถยนต์จำนวน 2 วงจากบริเวณสนามยิงปืน ภ.จวพระนครศรีอยุธยา เพื่อนำไปใช้เผาอำพรางศพผู้ตาย จากนั้นได้ใช้รถของราชการบรรทุกศพ โดยใช้เส้นทางโรจนะ มุ่งหน้าอำเภอวังน้อย เมื่อมาถึงบริเวณปั๊มน้ำมันปตท.สาขา PTTOR วังน้อย แล้วได้จอดรถในช่องจอดรถที่ 2 ด้านหน้าร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่นสาขา วังน้อย จากนั้นได้ลงไปซื้อขวดน้ำยี่ห้อหนึ่งจำนวน 5 ลิตร 1 ขวดและไฟแช็คจำนวน 1 อันจากนั้นได้เทน้ำเปล่าทิ้งและได้นำขวดเปล่าไปบรรจุน้ำมันดีเซลจากช่องจ่ายน้ำมันช่องที่ 3 จำนวน 100 บาทและขับรถยนต์มุ่งหน้าไปยังบริเวณซอยวิเชียรกลิ่นสุคนธ์ อบต.ลำไทร อำเภอวังน้อย เพื่อทำการเผานั่งยางศพ

โดย ส.ต.อ.ปิยะ นาโควงค์ ได้นำศพผู้ตายลงจากรถคันดังกล่าวมายังบริเวณทุ่งหญ้าภายในซอยวิเชียรกลิ่นสุคนธ์ จากนั้นได้ทำการเผานั่งยางผู้ตายพร้อมด้วยถุงทะเลที่ใช้บรรจุศพ ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง จนกระทั่งสภาพศพไหม้หมดประมาณ 80% ส.ต.อ.ปิยะ นาโควงค์ จึงได้นำชิ้นส่วนกระดูกศพที่เหลือจากการเผานั่งยางนำบรรจุในถุงอาหารสุนัขยี่ห้ออัลโปที่เตรียมไว้ และได้ขับรถไปยังบริเวณกลางสะพานอโยธยา เส้นทางมุ่งหน้าเข้าเมืองพระนครศรีอยุธยา ห่างจากจุดที่เผา 30 กิโลเมตร จากนั้นได้นำชิ้นส่วนศพขาส่วนร่างถึงหัวเข่า และถุงอาหารสุนัขทิ้งลงตรงบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยา ก่อนขับรถกลับมายังที่พักแล้วกลับมาทำงานตามปกติ

พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 เผยหลังจากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การรับสารภาพถึงเหตุจูงใจว่า เกิดจากความหึงหวงผู้ตายเป็นคนชอบแต่งตัว และมีปัญหาเรื่องการเงิน และยังอ้างว่าไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เสียชีวิต แต่เกิดจากการพลั้งมือ และเสียใจในสิ่งที่เกิดขึ้น เบื้องต้นให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานพร้อมแจ้งข้อกล่าวหา มิได้มีเจตนาฆ่า แต่ทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ซ่อนเร้นทำลายศพเพื่อปิดบังการเสียชีวิต ซึ่งในวันจันทร์ที่ 15 มี.ค. จะได้นำตัว ส.ต.อ.ปิยะ นาโควงค์ ผู้ต้องหาฝากขังศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ส่วนแนวทางการช่วยเหลือ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะช่วยเหลือด้านของการประกอบพิธีทางศาสนาทั้งหมด ส่วนลูกชายวัย 5 ขวบ ซึ่งเป็นลูกติดผู้ตาย ก็จะช่วยเหลือทั้งด้านทุนการศึกษา

ด้าน นางภาวณีย์ สุภศรี อายุ 64 ปี มารดาผู้ตาย เผยว่า ตนได้พบหน้ากับผู้ต้องหาแล้ว แต่ก็ไม่ได้พูดคุยอะไรมาก ผู้ต้องหาได้เข้ามากราบขอโทษ ซึ่งแม่ก็อโหสิกรรมให้ เนื่องจากอยากให้วิญญาณของลูกสาวไปสู่สุคติ ส่วนศพยังคงต้องรอผลจากนิติเวชยืนยันอีกครั้ง และจะนำกลับมาบำเพ็ญกุศลตามศาสนาอีกครั้งที่วัดเสนาสนารามราชวรวิหาร อ.พระนครศรีอยุธยา.