ปอศ. รวบสาวนักตุ๋น นำดอลลาร์เก๊ 17 ล้านบาท หลอกขายร้านแลกเงิน


ปอศ. รวบสาวนักตุ๋น นำดอลลาร์เก๊ 17 ล้านบาท หลอกขายร้านแลกเงิน

ข่าวอาชญากรรม

ไทยรัฐออนไลน์

26 พ.ค. 2564 14:47 น.

บันทึก
SHARE

ตำรวจ ปอศ.เจ๋ง รวบสาวนักต้มตุ๋น นำเงินดอลลาร์สิงคโปร์ปลอม มูลค่ากว่า 17 ล้านบาท มาหลอกขายร้านแลกเงินย่านสีลม นำตรวจค้นรถพบดอลลาร์สหรัฐฯ อีกกว่า 3 แสนบาท

เมื่อวันที่ 26 พ.ค.64 พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ปอศ. สั่งการให้ พ.ต.อ.ภาดล จันทร์ดอน ผกก.5 บก.ปอศ. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปอศ. เฝ้าสังเกตการณ์บริเวณด้านหน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งย่านสีลม หลังได้รับแจ้งจากสายลับว่า จะมีหญิงวัยกลางคนแต่งกายภูมิฐาน นำธนบัตรดอลลาร์สิงคโปร์ปลอมจำนวนมากมาหลอกขายให้กับร้านรับแลกเงิน ต่อมาได้พบนางอนัญญา (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี เดินถือซองกระดาษสีน้ำตาลอยู่ เมื่อตรวจสอบข้อมูลกับสายลับยืนยันว่าใช่ เจ้าหน้าที่ตำรวจกก.5.บก.ปอศ. จึงแสดงตัวขอตรวจค้นพบธนบัตรดอลลาร์สิงคโปร์ ฉบับละ 10,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ 74 ฉบับ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 17,473,680 บาท บรรจุอยู่ในซองกระดาษสีน้ำตาล

จากการสอบถามนางอนัญญา ทราบว่าเงินดอลลาร์สิงคโปร์ ทั้งหมดเป็นของตนเอง จะเอามาขายให้กับร้านแลกเงิน จากนั้นได้ขยายผลไปตรวจค้นรถยนต์ของนางอนัญญา ซึ่งจอดไว้อีกที่หนึ่งย่านสีลม พบธนบัตรดอลลาร์สหรัฐฯ ฉบับละ 100 ดอลลาร์ อีก 95 ฉบับ คิดเป็นเงินไทยประมาณ 279,537 บาท จึงได้นำตัวพร้อมธนบัตรต้องสงสัย มาตรวจสอบที่ กก.5 บก.ปอศ. ร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วย US Secret Service ประจำสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีภารกิจสืบสวนปกป้องระบบทางการเงินของสหรัฐอเมริกาจากอาชญากรรมทางการเงินและอาชญากรรมทางอิเล็กทรอนิกส์และผู้เชี่ยวชาญจากผู้ประกอบธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ

ข่าวแนะนำ

จากการตรวจสอบยืนยันว่าธนบัตรดอลลาร์สิงคโปร์และธนบัตรดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ตรวจยึดมาได้ทั้งหมดเป็นธนบัตรปลอม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจับกุมนางอนัญญา แจ้งข้อหามีไว้เพื่อนำออกใช้ธนบัตรรัฐบาลต่างประเทศ (ดอลลาร์สิงคโปร์ และดอลลาร์สหรัฐฯ) อันตนได้มาโดยรู้ว่าเป็นของปลอมหรือแปลง นำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. ดำเนินคดี

พ.ต.อ.ภาดล จันทร์ดอน ผกก.5 บก.ปอศ. กล่าวว่า ธนบัตรปลอมทั้งหมดที่ตรวจยึดมาได้ หากคนร้ายสามารถนำไปแลกกับร้านค้าหรือบุคคลอื่นที่ตกเป็นเหยื่อได้ จะสร้างความเสียหายอย่างมาก หากคิดเป็นเงินไทยจะมีมูลค่าความเสียหายสูงถึง 17 ล้านกว่าบาท ถือเป็นการซ้ำเติมผู้ประกอบการร้านค้าธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินและธุรกิจการท่องเที่ยว ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจในห้วงวิกฤติโควิดอยู่แล้ว ทั้งนี้เชื่อว่านางอนัญญา ไม่ได้กระทำผิดเพียงคนเดียว น่าเชื่อว่าทำกันเป็นขบวนการ ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลหาตัวผู้ร่วมกระทำผิดต่อไป.

อ่านเพิ่มเติม…