ปรากฏการณ์ “พระมหาเทวีเจ้า” นักการตลาด แห่งเมืองทิพย์ ขายความต่างแบบบ้านๆ ดังพลุแตก


ปรากฏการณ์ “พระมหาเทวีเจ้า” นักการตลาด แห่งเมืองทิพย์ ขายความต่างแบบบ้านๆ ดังพลุแตก

สกู๊ปไทยรัฐTHE ISSUE

ไทยรัฐออนไลน์

13 มี.ค. 2564 11:54 น.

บันทึก
SHARE

  • ปรากฏการณ์เหนือความคาดหมาย ไม่พูดถึงไม่ได้แล้วนะ เมื่อแฟนคลับชาวกรุง แห่ออกมาต้อนรับ “แม่หญิงลี เจ๊อย่าวีน” หรือ “พระมหาเทวีเจ้า” แห่งเมืองทิพย์ โดยสารทางรถไฟ พร้อมพระสหาย จากปัตตานี ดินแดนสามจังหวัดภาคใต้ มาเยือนกรุงเทพมหานคร เมืองฟ้าอมร
  • “แม่หญิงลี” หรือ “พระมหาเทวีเจ้า” ชื่อในบัตรประชาชน “นายบุหงาวลัย คงขวัญ” ชาวปัตตานี อายุ 37 ปี จากคนธรรมดาสามัญ กลายเป็นที่รู้จักเพราะความเป็นคนตลก ตั้งแต่ทำคลิปเรื่องราวในชีวิตประจำวัน และทำต่อเนื่องผ่านโซเชียลมีเดียช่องทางต่างๆ แท็กทีมกับเพื่อนเลิฟ “อีทิพย์-เมญ่า ลินดา” จนโด่งดังปังปุริเย่ มีผู้ติดตามหลายแสนคน

  • เพราะ “แม่หญิงลี” โปรดปรานละครเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะ “เพลิงพระนาง” มีนางเอกระดับซุปตาร์ “อั้ม พัชราภา” รับบท “เจ้านางอนัญทิพย์” และ “ยุ้ย จีรนันท์” รับบท “พระมหาเทวีเจ้าเสกขรเทวี” แต่ “แม่หญิงลี” สับสนในตัวละคร จนแฟนคลับสถาปนาอวยยศให้เป็น “พระมหาเทวีเจ้า”

ด้วยความเป็นเน็ตไอดอล ผู้ให้ความสุข ตลกขบขันฮากระจาย ผ่านการทำคอนเทนต์หลากหลาย จนเป็นที่รู้จัก คุ้นหูกับวลีฮิตแห่งเมืองทิพย์ “ไหว้สา” “กูจะบ้าตายรายวัน” “เยาวรุ่น” “นะน้องนะ” และอีกหลายๆ คำ เมื่อเป็นคนดังมีความเป็นแบรนด์แบบฉบับของตัวเอง สามารถต่อยอดในการหารายได้อย่างแน่นอน และผู้กำกับเจ้าเดิม “พชร์ อานนท์” ก็ไม่พลาดเกาะกระแสชวนมาเล่นหนัง

ข่าวแนะนำ

ปังขนาดนี้ต้องยกให้ “พระมหาเทวีเจ้า” เป็นนักสื่อสารการตลาด แห่งยุคนี้อีกคน ทำให้ “ดร.ภูษิต วงศ์หล่อสายชล” อาจารย์ประจำคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด ซึ่งติดตามกระแสความแรงของผู้ปกครองเมืองทิพย์มาตลอดสัปดาห์ ต้องชื่นชมในความเป็นครีเอทคอนเทนต์ โดนใจได้อย่างชัดเจน พร้อมกับคำนิยามง่ายๆ ตามหลักการตลาด 4C ในมุมมองของ ดร.ภูษิต


เริ่มจาก C แรก ในเรื่องคอมมูนิตี้ (Community) เพราะเมืองทิพย์ของ “แม่หญิงลี” หรือ “พระมหาเทวีเจ้า” คือชุมชน ซึ่งโลกของชุมชนมีความสำคัญมาก และในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงไม่ต้องมาเจอกันในลักษณะของสภากาแฟ เหมือนในอดีต ได้กลายเป็นกลุ่มของคนที่มีความชอบคล้ายกัน เกี่ยวกับละครจักรๆ วงศ์ๆ จากเรื่อง “เพลิงพระนาง” และเหมือนกับกลุ่มจ๊อกจ๊อก ของผู้มีความหลากหลายทางเพศ (LGBT) ได้นำคลิปไปเผยแพร่ต่อ เป็นการเอื้อให้ชุมชนให้สามารถคุยกันในเรื่องชาวบ้านๆ

ส่วน C ตัวที่สอง เรื่องคอมเมดี้ (Comedy) มีความตลก ขบขันเป็นกันเอง ไม่ได้ซีเรียส เพราะคนไทยชอบอะไรขำๆ จากการที่ “แม่หญิงลี” ทำเนื้อหาในลักษณะใครดูก็ขำขัน แม้มีการวีนออกมา แต่ไม่ได้ทำให้ทัวร์ลง เพราะไม่ได้ตั้งใจจะวีน มีความเป็นธรรมชาติ ซึ่งทำค่อนข้างดี และ C ที่สาม เรื่องคอนเทนต์ (Content) แม้ถูกบูลลี่ ถูกกลั่นแกล้ง เรื่องความอ้วน สีผิว แต่กลับสร้างคอนเทนต์ได้แตกต่าง มีการรีวิวแบบบ้านๆ แตกต่างจากเน็ตไอดอลคนอื่นๆ ต้องรีวิวของแพงหรูหรา ทำให้คนในต่างจังหวัดชื่นชอบ เพราะสามารถเข้าถึงง่าย คนเห็นก็ง่าย ไม่ทำให้ใครหมั่นไส้


“แม่หญิงลี ยังมีความเป็น Can to be Unique เป็นความโดดเด่นไม่เหมือนใคร มีอัตลักษณ์แตกต่างจากคนอื่นอย่างชัดเจน มีความสามารถในการสร้างความแตกต่างจากคนหลายๆ กลุ่ม ไม่จำเป็นต้องมีผิวสีขาว เหมือนคนอื่น ก็สามารถสร้างความโดดเด่นได้ เป็น C สี่ตัวที่แม่หญิงลี โดดเด่น เข้ากับหลักการตลาด ทำให้คนเข้าถึงได้ง่าย จากการตั้งชุมชนเมืองทิพย์ มีการสร้างเนื้อหาสม่ำเสมอ มีความตลก เมื่อจะวีนก็ทำแบบน่ารัก กลายเป็นความกลมกล่อม”


“พระมหาเทวีเจ้า” มาแบบเงียบๆ ดังพลุแตกเหมือนลุงพล

กรณีของ “แม่หญิงลี” หรือ “พระมหาเทวีเจ้า” มาในลักษณะแบบเงียบๆ และดังพลุแตกแบบลุงพล บ้านกกกอก จากออนไลน์ มาสู่ออฟไลน์ เช่นเดียวกับต่างประเทศที่วันนี้มีการทำตลาดแบบออนไลน์ มาสู่ออฟไลน์ จากโซเชียลมีเดียที่มีอยู่ และ “แม่หญิงลี” ได้ลงมาสู่ออฟไลน์ ด้วยการนั่งรถไฟเข้ามากรุงเทพฯ เป็นการสร้างความแตกต่าง ทำให้คนจับต้องได้ง่าย หรือคนไม่เล่นเฟซบุ๊กก็เข้าหาได้ จนแห่มาต้อนรับเนืองแน่น

อีกอย่างการเป็นออกรายการโหนกระแส ที่มีหนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย ดำเนินรายการ ได้ทำให้คนรู้จักมากขึ้น และเมื่อลูกค้ามากขึ้นจะสามารถรีวิวสินค้าได้ เพราะมีคนติดตามเป็นจำนวนมาก และได้ทำให้หมอฟัน ติดต่อเข้ามาให้ทำฟัน เหมือนการตีเหล็กต้องตีตอนร้อน เป็นการขยายผลผ่านช่องทางต่างๆ เป็นวงกว้าง มีแบรนด์สินค้าต่างๆ ติดต่อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งทำฟัน เสื้อผ้า ศัลยกรรม วิตามิน อาหารเสริมต่างๆ ทำให้ผิวขาว

“เป็นสิ่งที่จะได้มาอย่างมหาศาล แต่ถามว่าใครจะกล้าเข้ามา จะต้องมั่นใจว่าอยู่ยาวหรือไม่ ตอนนี้แบรนด์สินค้า ยังไม่กล้าลงมาเต็มตัว เพราะยังกลัวความเสี่ยง อาจมีเข้ามาเป็นแบรนด์กลางๆ คงต้องปรับมู้ดแอนด์โทน ไม่ให้ออกนอกลู่นอกทาง เหมือนบางเรื่อง ตอนนี้ต้องหาผู้จัดการเข้ามาดูแล เพราะยังมีหลายเรื่อง ต้องให้เข้ามาช่วยดูแลไม่ให้ลงเหว ต้องจัดการดีๆ ไม่ให้พากันลงเหวเหมือนกรณีลุงพล”


ความโด่งดัง มาพร้อมผลประโยชน์ พึงระวัง อย่าพลาดท่า

ขณะนี้ “แม่หญิงลี” หรือ “พระมหาเทวีเจ้า” เรียกว่าเป็น “Question Marks” ในโมเดลการวิเคราะห์ BCG Matrix มีทางเลือก 2 ทาง ระหว่าง 1. STar เป็นดวงดาว ทำให้ตลาดเติบโตสูงหรือไม่ และ 2. Dog เป็นหมา ทำให้ตลาดเติบโตน้อย จึงต้องสละทิ้ง แต่คิดว่า “แม่หญิงลี” ทำได้ไม่น่ายาก ทั้งธุรกิจเกี่ยวกับฟัน โดยเฉพาะร้านทำผม ซึ่งมีความชอบในเรื่องนี้อยู่แล้ว หรือการทำให้สีผิวขาว เกี่ยวกับวิตามิน อาหารเสริม

หากเปรียบเทียบระหว่าง “แม่หญิงลี” กับ “สิตางค์ บัวทอง” ตำนานส้มหยุด ซึ่งทั้งคู่มีความโดดเด่นเรื่องความตลกขบขัน และเหตุที่ “สิตางค์ บัวทอง” อยู่ได้นาน เนื่องจากวางตัวดี ทำให้ไม่พลาดท่าไปอย่างน่าเสียดาย ส่วน “แม่หญิงลี” ตั้งแต่เดินทางโดยรถไฟ มาเดินสยามพารากอน พบว่าคนให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ดังนั้นหากมีเรื่องผลประโยชน์เข้ามามากขึ้น ควรพึงระวัง จะต้องบริหารจัดการให้ดี ควรมีข้อตกลงที่ชัดเจนทั้งเรื่องเงิน และวิธีการทำงาน เพราะเป็นเรื่องของธุรกิจที่เกิดจากไลฟ์สไตล์ ควรมีการวางระบบจัดการกับเพื่อนให้ดี


ปรากฏการณ์ของ “พระมหาเทวีเจ้า” แห่งเมืองทิพย์ จะเป็นอย่างไรต่อไป ท้ายสุดจะมีการเฉลยในตอนท้ายว่าเกี่ยวกับเรื่องใด หากหลอกกันทุกอย่างก็จะจบ แต่ขณะนี้เชื่อว่ารายการต่างๆ ได้ติดต่อให้ไปออกรายการเป็นจำนวนมาก และคำถามที่ว่าเรื่องผลประโยชน์จะเป็นอย่างไร ก็จะเห็นในช่วงท้ายสุด เพราะทุกอย่างอยู่ที่ตัว “แม่หญิงลี” หรือ “พระมหาเทวีเจ้า” ผู้มีความแตกต่างไม่เหมือนใคร

“หากเป็นความจริง ไม่ได้ประดิษฐ์ เป็นเรียลลิตี้จริงๆ เหมือนที่คนอยากเห็น เป็นอะไรแบบพื้นๆ บ้านๆ ถูกจริตคนกรุง เข้ามาแบบเน็ตไอดอลติดดิน ถือเป็นการลงทุนต้นทุนต่ำถูกที่สุด และมีความแตกต่าง ทำให้คนกลัวตกกระแส จึงต้องติดตาม และจากฐานแฟนคลับ เพิ่มขึ้นต่อเนื่องขยายเป็นวงกว้าง ในหลายๆ ช่องทางมากขึ้น ทำให้มีลูกค้าเป็นจำนวนมาก สุดท้ายแล้วอยู่ที่การบริหารจัดการ ต้องทำอย่างพึงระวัง”.

ผู้เขียน : ปูรณิมา

อ่านเพิ่มเติม…