พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เชิญธงไตรรงค์ เปิดกิจกรรม “วิ่งธงชาติไทย รวมใจสู่ชัยชนะ” งานวิ่งผลัดธงชาติไทยครั้งยิ่งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ ส่งใจเชียร์ทัพนักกีฬาไทยสู้ศึก “โอลิมปิก โตเกียวเกมส์”

นอกจากนี้ยังมีอดีตนักกีฬาทีมชาติไทยที่ให้เกียรติเข้าร่วมงานในครั้งนี้ อาทิ สมรักษ์ คำสิงห์ วีรบุรุษเหรียญทองโอลิมปิกคนเเรกของเมืองไทย จากกีฬามวยสากลสมัครเล่น ในปี 1996, วิจารณ์ พลฤทธิ์ นักชกเหรียญทองโอลิมปิก ปี 2000, ปวีณา ทองสุก เเละ อุดมพร พลศักดิ์ 2 จอมพลังฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ ปี 2004 พร้อมด้วยนักกีฬาทีมชาติไทยในยุคปัจจุบัน อาทิ อิสราภา อิ่มประเสริฐสุข (เป้าบิน), อารีย์ณัฎฐา ชวตานนท์ (ขี่ม้า), ประวัติ วะโฮรัมย์ เจ้าของ 7 เหรียญทอง วีลแชร์เรซซิ่ง พาราลิมปิกเกมส์ และ ภูธเรศ คงรักษ์ นักกีฬาวีลเเชร์เรซซิ่ง

พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า ทั่วโลกต้องเผชิญหน้ากับวิกฤติการระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้กิจกรรมทุกอย่างต้องหยุดชะงักไปหมด รวมถึงโอลิมปิกเกมส์ที่ถูกเลื่อนออกไปด้วย อย่างไรก็ตามถือเป็นเรื่องดีที่ฝ่ายจัดฯ ยืนยันจะจัดการเเข่งขันขึ้นอย่างแน่นอนในปี 2021 และจะทำให้เราได้ดูและเชียร์นักกีฬาไทยในมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของมวลมนุษยชาติ ทางรัฐบาลขอส่งกำลังใจให้กับคณะเจ้าหน้าที่ นักกีฬาตัวแทนทีมชาติไทยทุกคนที่จะเดินทางไปปฏิบัติภารกิจเพื่อชาติในห้วงเวลาดังกล่าว ขอให้ทุกคนตั้งใจ ทุ่มเท มุ่งมั่นทำหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มที่ที่สุด เพื่อโอกาสประสบความสำเร็จ คว้าชัยชนะและเหรียญรางวัลกลับมาฝากคนไทย ขออย่าลืมความเป็นไทย เเละสปิริตของการเป็นนักกีฬา เชื่อว่ากิจกรรมในครั้งนี้จะเป็นการเเสดงออกถึงการรวมกำลังใจของคนไทยทั้งชาติที่จะทำให้นักกีฬาไทยได้รับรู้เเละมีกำลังใจในการทำหน้าที่เพื่อชาติต่อไป

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวเเละกีฬา เผยว่า กิจกรรม “วิ่งธงชาติไทย…รวมใจสู่ชัยชนะ” ถือเป็นงานวิ่งธงชาติครั้งยิ่งใหญ่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เชื่อว่าการจัดกิจกรรมในลักษณะนี้จะเป็นการกระตุ้นและสร้างการมีส่วนร่วมของแฟนกีฬาและประชาชนคนไทยให้เกิดการรับรู้ เข้าถึง เเละซึมซับบรรยากาศของการเเข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ได้มากขึ้น สิ่งเหล่านี้จะเป็นกำลังใจสำคัญให้กับทัพนักกีฬาไทยในการเดินทางออกไปปฏิบัติภารกิจเพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ ที่สำคัญในครั้งนี้เรายังมีการถ่ายทอดสดการแข่งขันกลับมาให้คนไทยได้ร่วมติดตามเชียร์และให้กำลังใจอย่างใกล้ชิดผ่านหลากหลายช่องทางทั้งฟรีทีวีและแพลตฟอร์มต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ฟรีทีวี 6 ช่อง, โทรทัศน์ดาวเทียม T-Sport24s, Mobile Application ที่ AIS PLAY และ AIS PLAY BOX ครบทุกชนิดกีฬาอีก 12 ช่องรายการ ด้วยความคมชัดระดับ HD ตลอดทั้งวัน

ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาเเห่งประเทศไทย (กกท.) เผยว่า นักกีฬาไทยต่างเก็บตัวฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่องมาตลอดแบบไม่มีพัก แม้โอลิมปิกเกมส์จะถูกเลื่อนออกไปจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่ง กกท.ก็ได้ให้การสนับสนุน ส่งเสริม และอำนวยความสะดวกให้กับนักกีฬาไทยทุกคนทุกชนิดกีฬาที่อยู่ในโครงการอย่างเต็มที่ เพื่อให้มีความพร้อมที่สุดในการเตรียมควอลิฟายโอลิมปิกเกมส์ในช่วงโค้งสุดท้าย โดยเชื่อว่าเราจะมีนักกีฬาผ่านเข้าแข่งขันในรอบสุดท้ายได้ราวๆ 40 คน จึงอยากเชิญชวนชาวไทยทั่วประเทศ มาร่วมให้กำลังใจทัพนักกีฬาไทยในการเเข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ที่จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 ก.ค. ถึง 8 ส.ค.นี้ รวมถึง พาราลิมปิกเกมส์ ระหว่างวันที่ 24 ส.ค. ถึง 5 ก.ย.64 ด้วยเช่นกัน ซึ่งตนเชื่อว่านักกีฬาของเราจะสามารถสร้างและบันทึกหน้าประวัติศาสตร์ นำธงไตรรงค์ขึ้นสู่ยอดเสาในการแข่งขันทั้ง 2 มหกรรมกีฬาได้อีกสมัยหนึ่งอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ กิจกรรม “วิ่งธงชาติไทย…รวมใจสู่ชัยชนะ” จะเปิดฉากเริ่มขึ้นวันแรกอย่างเป็นทางการในช่วงเช้าตรู่ วันอาทิตย์ ที่ 28 มี.ค.นี้ บริเวณหน้าอินดอร์สเตเดียม หัวหมาก กกท. ณ จุดสตาร์ต กม. ที่ 1 เพื่อส่งต่อธงวิ่งจนครบ 35 จังหวัด ต่อเนื่องรวม 61 วัน ซึ่งใน กม.แรก สมรักษ์ คำสิงห์ วีรบุรุษเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์คนแรกของเมืองไทย จากกีฬามวยสากลสมัครเล่น เมื่อปี 1996 จะเป็นผู้วิ่งธงไตรรงค์ไม้แรก

สำหรับเส้นทางการวิ่งผลัดธงชาติไทยครั้งประวัติศาสตร์ จะมีขึ้นใน 35 จังหวัด โดยออกสตาร์ตที่กรุงเทพมหานคร ก่อนวิ่งต่อไปยัง สมุทรสงคราม สมุทรสาคร เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา พัทลุง ราชบุรี นครปฐม กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ชัยนาท นครสวรรค์ กำแพงเพชร ตาก ลำปาง ลำพูน เชียงใหม่ แพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ ชัยภูมิ ขอนเเก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ สระเเก้ว จันทบุรี ระยอง ชลบุรี ฉะเชิงเทรา และมาสิ้นสุดที่สนามบินสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ

งานวิ่งครั้งประวัติศาสตร์ “วิ่งธงชาติไทย …รวมใจสู่ชัยชนะ” โดย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, การกีฬาแห่งประเทศไทย และกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ, คณะกรรมการกิจการ กระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยใน พระบรมราชูปถัมภ์, คณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด, บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน), บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน), บริษัท อายิโนะโมะโต๊ะ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท ฟู้ดแพนด้า ประเทศไทย จำกัด, บริษัท บุญรอดเทรดดิ้งจำกัด, บริษัท เดอะ สวอท์ช กรุ๊ป เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด เเละ บริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด

ผู้สนใจสามารถติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ทางเว็บไซต์ www.stadiumth.com
และเฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/THStadium/