นายกฯ ยินดีไทยได้ 2 ทับหลังคืน เผยมาตรการเยียวยาฟื้นฟูช่วยเศรษฐกิจขยายตัว


นายกฯ ยินดีไทยได้ 2 ทับหลังคืน เผยมาตรการเยียวยาฟื้นฟูช่วยเศรษฐกิจขยายตัว

ข่าวการเมือง

ไทยรัฐออนไลน์

20 มี.ค. 2564 11:35 น.

บันทึก
SHARE

“พล.อ.ประยุทธ์” เผยผ่าน PM PODCAST ยินดีไทยได้ “ทับหลังปราสาทหนองหงส์ – ทับหลังปราสาทเขาโล้น” กลับคืน ชี้ มาตรการเยียวยาและฟื้นฟูเป็นปัจจัยสำคัญช่วยให้เศรษฐกิจไทยขยายตัว

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 20 มี.ค. 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พูดคุยประเด็นต่างๆ ผ่าน PM PODCAST อาทิ การส่งคืนโบราณวัตถุจากต่างประเทศ การปรับปรุงการทำงาน สู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล ทิศทางเศรษฐกิจไทยปี 2564 รวมถึงการแก้ไขปัญหาของชาวบางกลอย โดยสรุปประเด็นดังนี้ 

ข่าวแนะนำ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวแสดงความยินดีที่ประเทศไทยจะได้โบราณวัตถุอันล้ำค่า 2 รายการกลับคืนมา คือ ทับหลังปราสาทหนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ และทับหลังปราสาทเขาโล้น จ.สระแก้ว ที่ได้จัดแสดงอยู่ที่ Asian Art Museum นครซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา ขณะนี้อยู่ในกระบวนการส่งคืนให้ไทยโดยกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ คาดว่าจะมีการส่งมอบอย่างเป็นทางการภายในเดือน พ.ค. นี้ รวมทั้งวัตถุโบราณเพิ่มเติมอีก 13 รายการ ทั้งพระพุทธรูปและรูปเคารพต่างๆ ขณะเดียวกันไทยได้ดำเนินการประสานขอรับมอบโบราณวัตถุคืนอีก 32 รายการ เช่น ชิ้นส่วนสถาปัตยกรรมหิน และประติมากรรมสำริดสมัยลพบุรี นับเป็นความสำเร็จที่มาจากการทำงานแบบบูรณาการระดับชาติและความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ที่มีมาอย่างยาวนาน

ส่วนการมุ่งสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัลนั้น ได้มีการปรับปรุงการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการติดต่อและขออนุญาตจากทางราชการ ลดการใช้สำเนาเอกสาร ลดขั้นตอนและระยะเวลาการให้บริการต่างๆ เพิ่มประสิทธิภาพและช่องทางการเข้าถึงบริการภาครัฐ โดยการพัฒนาระบบบริการทางธุรกิจที่เรียกว่า Biz Portal เพื่อออกหนังสือรับรอง ใบอนุญาต แบบเบ็ดเสร็จทางอิเล็กทรอนิกส์ พัฒนาระบบศูนย์กลางการบริการประชาชนหรือ Citizen Portal โดยให้บริการผ่าน Mobile Application อาทิ การตรวจสอบสิทธิพยาบาล ชำระภาษีรถประจำปี ลดค่าใช้จ่ายของประชาชนในการติดต่อราชการ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบราชการ พร้อมๆ ไปกับการเปิดรับฟังความคิดเห็นของเยาวชนรุ่นใหม่เกี่ยวกับการพัฒนาประเทศ ปรับลดขนาดกำลังคนภาครัฐให้เหมาะสมเพื่อลดภาระงบประมาณระยะยาว ใช้ระบบเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อปฏิบัติงานและให้บริการประชาชน

สำหรับทิศทางเศรษฐกิจไทย ปี 2564 มีหลายปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้เศรษฐกิจขยายตัว ทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ผ่านมาตรการเยียวยาและฟื้นฟู โครงการลงทุนเพื่อวางโครงสร้างพื้นฐาน การเชื่อมต่อคมนาคมขนส่ง การลงทุนใน 4 อุตสาหกรรมใหม่ ได้แก่

1. อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า
2. อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจริยะ
3. อุตสาหกรรมเทคโนโลยีการแพทย์และการดูแลสุขภาพ
4. อุตสาหกรรมดิจิทัล

พร้อมทั้งขยายอุตสาหกรรมเป้าหมายเดิมที่มีความแข็งแกร็ง โดยเน้นโมเดลเศรษฐกิจแบบใหม่ที่เรียกว่า BCG “เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจสีเขียว” นอกจากนี้ ยังมีการส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ ยกระดับการส่งออกสินค้าที่มีศักยภาพ ให้มีคุณภาพมาตรฐานสากล การบริหารจัดการด้านสังคม เช่น บัตรสวัสดิการผู้มีรายได้น้อย เพิ่มสิทธิประโยชน์การรักษาพยาบาลบัตรทอง จัดสรรที่ดินทำกินแก่เกษตรกร และพักหนี้ช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยและธุรกิจ รวมทั้งที่อยู่อาศัยเพื่อให้คนไทยมีบ้านทั่วหน้าและมีคุณภาพชีวิตที่ดี

สำหรับการบริหารจัดการวัคซีนโควิด-19 และการเปิดประเทศ ซึ่งไทยเริ่มฉีดวัคซีนตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. 2564 เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความปลอดภัยให้กับประชาชน รวมทั้งจะมีมาตรการเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวใช้เวลากักตัวที่สนามกอล์ฟ เรือยอชต์ ซึ่งในระยะต่อไปกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะเสนอแผนให้ชาวต่างชาติกักตัวในจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม เช่น ภูเก็ต กระบี่ เชียงใหม่ สำหรับประเด็นเสนอลดเวลาการกักตัวเหลือ 7-10 วัน ยังจะต้องผ่านการพิจารณาอย่างรอบคอบก่อน 

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี กล่าวในช่วงท้ายว่า ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน พัฒนาและฟื้นฟูคุณภาพชีวิตในพื้นที่บ้านบางกลอย อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี เพื่อรวบรวมปัญหา ตรวจสอบข้อเท็จจริง และเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับคดีปกครอง อาญา และแพ่งอย่างเหมาะสม.

อ่านเพิ่มเติม…