ตร.แจงเริ่มจับไม่สวมหน้ากากฯ ออกจากบ้านแล้ว ตามประกาศผู้ว่าฯ 63 จังหวัด


ตร.แจงเริ่มจับไม่สวมหน้ากากฯ ออกจากบ้านแล้ว ตามประกาศผู้ว่าฯ 63 จังหวัด

ข่าวอาชญากรรม

ไทยรัฐออนไลน์

28 เม.ย. 2564 14:45 น.

บันทึก
SHARE

รอง ผบ.ตร.เผย ตำรวจดำเนินคดีผู้ฝ่าฝืนไม่สวมหน้ากากอนามัย ออกจากเคหสถานแล้วในหลายจังหวัดควบคู่กับการจับคนมั่วสุม ขณะที่โฆษกศาลยุติธรรม แจงลงโทษตามที่ ก.ม.กำหนดตามดุลยพินิจไม่เกิน 2 หมื่นบาท

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อเวลา 10.50 น. วันที่ 28 เม.ย.64 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร.กล่าวถึงการดำเนินการกับผู้ฝ่าฝืนไม่สวมหน้ากากอนามัย ออกจากเคหสถาน ว่า 1-2 วันแรกมีการเอาผิดทั้งที่ จ.พระนครศรีอยุธยา สุราษฎร์ธานี ตรัง และอีกหลายจังหวัด ซึ่งในช่วงแรกจะเน้นการประชาสัมพันธ์ควบคู่กันไป ทั้งนี้ ทราบว่าผู้ว่าราชการจังหวัดได้ออกประกาศเพิ่มเติมรวมบังคับใช้จำนวน 63 จังหวัดแล้ว นอกจากนี้ยังเน้นการจับกุมเรื่องการมั่วสุม และการฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งกรณีใหญ่ๆ ช่วงนี้เป็นกรณีของหาดใหญ่ ที่มีการจับกุมการมั่วสุมได้จำนวนมากและมีการติดเชื้อ ทำให้ตำรวจต้องไปกักตัว รวมถึงจ.ชลบุรี มีการจับกุมเมื่อวันที่ 25 เม.ย.เรื่องการปาร์ตี้ เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายจะนำพ.ร.ก.ฉุกเฉิน และพ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ มาบังคับใช้

สำหรับผลการจับกุมผู้ฝ่าฝืนไม่สวมหน้ากากอนามัย ตามประกาศผู้ว่าฯ รวมจำนวน 13 ราย ประกอบด้วย บช.น. 1 ราย ในพื้นที่สน.ดุสิต เมื่อวันที่ 26 เมษายน ดำเนินคดีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ปรับ 6,000 บาท, ภ.1 จำนวน 2 ราย เมื่อวันที่ 25 เมษายน ส่งฟ้องศาลแขวงอยุธยา ปรับคนละ 2,000 บาท, ภ.2 จำนวน 2 ราย สภ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี เมื่อวันที่ 26 เมษายน ปรับคนละ 6,000 บาท, ภ.4 จำนวน 6 ราย สภ.ธาตุพนม เมื่อวันที่ 27 เมษายน ปรับคนละ 6,000 บาท จำนวน 5 คน ส่วนอีก 1 คน อยู่ระหว่างฟ้องศาล, ภ.8 จำนวน 1 ราย สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 21 เมษายน ส่งศาลแขวงสุราษฎร์ธานี ปรับ 2,000 บาท, ภ.9 จำนวน 1 ราย สภ.เมืองปัตตานี เมื่อวันที่ 26 เมษายน ส่งศาลแขวงปัตตานี ปรับ 1,000 บาท

ข่าวแนะนำ

ส่วนผลการจับกุมการกระทำความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ระหว่างวันที่ 1-27 เมษายน จับกุม 186 ครั้ง โดย 1-8 เมษายน จับกุม 19 ครั้ง, 9-15 เมษายน จับกุม 49 ครั้ง, 16-22 เมษายน จับกุม 29 ครั้ง, 23-27 เมษายน จับกุม 89 ครั้ง โดยเป็นความผิด การพนัน 53 ครั้ง มั่วสุม 15 ครั้ง ลักลอบเข้าเมือง 18 ครั้ง อื่น 3 ครั้ง

ด้าน นายสุริยัณห์ หงส์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวว่าในส่วนของการพิจารณาของศาลนั้น จะลงโทษตามระวางโทษที่กฎหมายกำหนด ส่วนบัญชีอัตราเปรียบเทียบแนบท้ายระเบียบ ฯ นั้น ใช้สำหรับผู้มีอำนาจเปรียบเทียบ ซึ่งตามคำสั่งกรมควบคุมโรครวมถึงพนักงานสอบสวนด้วย บัญชีนี้ไม่ผูกพันให้ศาลต้องใช้ตามเกณฑ์ที่กำหนดว่าครั้งแรกต้องปรับ 6,000 บาท ศาลจึงยังคงมีอำนาจในการใช้ดุลพินิจลงโทษได้ไม่เกิน 20,000 บาท ตามที่กำหนดไว้ในกฎหมาย ซึ่งเมื่อพิจารณาตามพฤติการณ์แห่งคดีแล้ว อาจเกินกว่าหรือต่ำกว่า 6,000 บาท ก็ได้

อีกทั้งการชำระค่าปรับตามที่ถูกเปรียบเทียบปรับเป็นผลทำให้คดีอาญาเลิกกัน สิทธิในการนำคดีอาญามาฟ้องระงับไป ไม่ต้องมาฟ้องคดีที่ศาลอีก หากไม่ยินยอมให้เปรียบเทียบปรับคดีอาญาก็ยังไม่ระงับ เจ้าพนักงานก็มีสิทธินำคดีมาฟ้องต่อศาลได้.

อ่านเพิ่มเติม…