Pew Research ชี้ จะหารักออนไลน์​ ต้องเตรียมใจกับประสบการณ์บวกและลบ

มีชาวอเมริกัน 3 ใน 10 คน ที่ใช้แอพพลิเคชันหาคู่ ไม่ว่าจะเป็นการตามหารักแท้ หรือหาคู่เดทเป็นครั้งคราว จากการศึกษาของ Pew Research Center ที่ออกมาในวันพฤหัสบดี และยังพบด้วยว่าในกลุ่มคนที่มีอายุต่ำกว่า 35 ปีนั้น มีมากกว่าครึ่งหนึ่งที่เคยใช้แอพหาคู่ที่มีอยู่ในปัจจุบัน

จำนวน 30% นี้ ถือว่าเป็นตัวเลขที่ไม่เปลี่ยนแปลงตั้งแต่ปี 2019 ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายที่ Pew Research Center ได้ทำการเก็บข้อมูลเรื่องการเดทหรือการหาคู่รักออนไลน์ แต่ว่าเพิ่มขึ้นจาก 15% ในปี 2015

อย่างไรก็ตาม คอลลีน แมคเคน หัวหน้างานวิจัยชิ้นนี้ของ Pew กล่าวว่า ผู้ใช้แอพหาคู่ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าพวกเขามีประสบการณ์คละกัน ตั้งแต่ตื่นเต้นดีใจ ไปจนถึงเอือมระอา

ประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจจากการศึกษาครั้งนี้ พบว่า 1 ใน 10 ของชาวอเมริกันที่มีคู่รัก กล่าวว่าพวกเขาพบคู่รักคนปัจจุบันผ่านแอพหรือเว็บไซต์หาคู่

และเมื่อถามว่าอะไรเป็นเหตุผลให้พวกเขาหันมาใช้แอพหาคู่ 44% ของผู้ใช้แอพในปัจจุบันกล่าวว่าเหตุผลอันดับหนึ่งคือการหาคู่ครองหรือคู่ชีวิต ในขณะที่ 40% ต้องการหาคู่เดท ที่ไม่จำเป็นว่าจะต้องคบจริงจังหรือหวังผลระยะยาว 24% ต้องการหาคู่นอนชั่วครั้งชั่วคราว ส่วน 22% ต้องการหาเพื่อนใหม่

Pew ยังรายงานด้วยว่า การใช้แอพหรือเว็บไซต์หาคู่นั้น เป็นที่นิยมมากที่สุดในกลุ่มคนอายุต่ำกว่า 30 ปี ซึ่ง 53% ของคนอายุต่ำกว่า 30 ปี ตอบว่าพวกเขาเคยใช้แอพหรือเว็บไซต์หาคู่ เมื่อเทียบกับกลุ่มคนอายุระหว่าง 30-49 ปี ที่มี 37% กลุ่มคนอายุ 50-64 ปี ที่มี 20% และกลุ่มคนอายุ 65 ปีขึ้นไป ที่มี 13%

แอนดี ไกรอน (Andy Giron) นักดับเพลิงวัย 33 ปีแห่งเมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย เป็นคนหนึ่งที่เคยคิดว่าการหาคู่รักผ่านทางออนไลน์นั้นเป็นเรื่องที่ “แปลก ๆ อยู่ซักหน่อย” ก่อนที่เขาจะได้มาเจอกับภรรยาผ่านแอพ Hinge ทั้งสองรู้สึกคลิกกันในทันที ก่อนที่ 6 เดือนต่อมา จะแต่งงานกัน และมีลูกสาวด้วยกัน 1 คน

ไกรอนกล่าวว่า เขาคิดมาตลอดว่าคนเราควรจะเจอกับคนรักในวิธีปกติ คือการเจอกันตามที่ต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน แต่การเจอกันทางออนไลน์นั้นได้กลายเป็นวิธีการเจอผู้คนใหม่ ๆ ของโลกปัจจุบันไปแล้ว

การศึกษาของ Pew Research ซึ่งนำข้อมูลมาจากการสำรวจชาวอเมริกันในสหรัฐฯ 6,000 คน ในช่วง 5-17 กรกฎาคมเมื่อปีที่ผ่านมา ยังพบว่าผู้ชายมีแนวโน้มมากกว่าผู้หญิงที่จะตอบว่าพวกเขามีประสบการณ์เชิงบวกในการเดทออนไลน์ หรือคิดเป็น 57% ต่อ 48% เลสเบียน เกย์ และไบเซ็กซวล มีแนวโน้มที่จะมีประสบการณ์ทางบวกมากกว่าผู้ใช้ที่ชอบเพศตรงข้าม คิดเป็น 61% ต่อ 53% ในขณะที่ผู้ใช้ผิวขาวหรือผิวดำ มีแนวโน้มที่จะเจอประสบการณ์ในเชิงลบมากกว่าผู้ใช้ที่มีเชื้อสายฮิสแปนิก

ผู้ใช้เพศชายที่ใช้แอพหาคู่เพื่อหาคู่นอนเป็นหลัก มี 18% มากกว่าผู้หญิงที่จะใช้แอพเพื่อวัตถุประสงค์เดียวกัน

ประสบการณ์ของผู้ใช้แอพหาคู่ทางออนไลน์นั้นมีคละกันไป โดย 14% กล่าวว่าได้รับประสบการณ์ที่ดีมาก 53% มีประสบการณ์ที่อย่างน้อยค่อนไปทางดี ในขณะที่ 48% กล่าวว่าได้เจอกับอย่างน้อย 1 ใน 4 พฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์จากคู่เดท เช่น ได้รับข้อความและรูปภาพส่อไปในทางเพศ บางคนได้รับการติดต่อจากบุคคลที่ไม่ต้องการติดต่อด้วย ในขณะที่บางคนต้องทนต่อการพูดจาส่อเสียดทางวาจา หรือถูกขู่ทำร้ายทางร่างกาย เป็นต้น โดยเหยื่อของพฤติกรรมไม่พึงประสงค์เหล่านี้ส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงที่อายุต่ำกว่า 50 ปี

ผู้ใช้บางคน เช่น ลิฟ ลัฟลิน พนักงานด้านการตลาดแห่งเมืองซานโฮเซ่ รัฐแคลิฟอร์เนีย พบว่าเธอได้รับประสบการณ์การหาคู่ออนไลน์ที่ดีขึ้น เมื่อเปลี่ยนประเภทของแอพพลิเคชันที่ใช้ เธอได้พบกับแฟนหนุ่มคนปัจจุบันจากแอพ Bumble หลังจากที่มีประสบการณ์เชิงลบกับคู่เดทจากแอพ Hinge

ความปลอดภัยเป็นความกังวลหลักของผู้ใช้แอพออนไลน์หลายคน ที่ผ่านมา มีการเรียกร้องให้มีการเพิ่มการคุ้มครองให้กับผู้ใช้แอพหาคู่มากขึ้น เช่น ให้มีการตรวจประวัติอาชญากรรม หลังจากที่มีข่าวการแอบตาม การใช้ความรุนแรง และการล่วงละเมิดทางเพศในบรรดาผู้ใช้แอพ แต่จนถึงทุกวันนี้มีเว็บไซต์และแอพพลิเคชันน้อยมากที่ให้มีการตรวจประวัติผู้ใช้ก่อน

ชาวอเมริกันเกือบครึ่งต่อครึ่งเห็นต่างกัน ว่าเว็บหรือแอพหาคู่ออนไลน์เป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยหรือไม่ในการหาคู่

แต่ผู้ใช้ส่วนใหญ่ในการสำรวจของ Pew เห็นเหมือนกันว่า เว็บไซต์และแอพหาคู่ควรจะกำหนดให้ผู้ใช้ทุกคนต้องผ่านการตรวจประวัติก่อน

การสำรวจของ Pew พบว่า 51% ของเลสเบียน เกย์ และไบเซ็กชวล ใช้แอพหรือเว็บไซต์หาคู่

Tinder เป็นแอพที่มีผู้ใช้มากที่สุด รองลงไปคือ Match และ Bumble และมีผู้ใช้จำนวนน้อยที่ใช้ OkCupid, eharmony และ Hinge ส่วน Grindr และ HER ได้รับความนิยมสูงกว่ามากในบรรดาเลสเบียน เกย์ และไบเซ็กชวล เมื่อเทียบกับผู้ที่ชอบเพศตรงข้าม