Mark Zuckerberg สูญเงินกว่า 70,000 ล้านเหรียญ ในปี 2022 หลัง Metaverse ไม่รุ่งดั่งฝัน

สำนักข่าว Bloomberg ได้รายงานว่า มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก (Mark Zuckerberg) ผู้ก่อตั้ง Facebook ได้สูญเสียมูลค่าส่วนบุคคลไปถึง 71,000 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 2.63 ล้านล้านบาท ในปี 2022 นี้ ซึ่งถือได้ว่าเป็นมหาเศรษฐีจากการจัดอันดับของ Bloomberg ที่ต้องสูญเสียเงินไปอย่างมหาศาลที่สุดในตอนนี้

Bloomberg ได้รายงานว่า มูลค่าส่วนบุคคลของซักเคอร์เบิร์กที่ลดลงอย่างมหาศาลนี้เป็นผลมาจากปัจจัยต่าง ๆ ทั้งด้านการตลาด รวมถึงจุดเปลี่ยนของบริษัทที่หันไปให้ความสำคัญกับ Metaverse อย่างเต็มตัว

เมื่อปี 2021 ที่ผ่านมา ซักเคอร์เบิร์กได้ประกาศว่าบริษัทจะให้ความสำคัญกับการสร้างแพลตฟอร์มโลกเสมือนจริง หรือที่เรียกว่า Metaverse ซึ่งทางบริษัทเชื่อวย่าจะเป็นก้าวสำคัญต่อไปของอินเทอร์เน็ต พร้อมทั้งรีแบรนด์บริษัท Facebook เป็น Meta ด้วย และเป็นเหตุให้แบรนด์ธุรกิจยักษ์ใหญ่มากมายได้หันมาให้ความสนใจในการสร้างแพลตฟอร์ม Metaverse ของตนเองด้วยเช่นกัน ยกตัวออย่างเช่น การสร้างดีลอสังหาริมทรัพย์ในโลกดิจิทัลซึ่งได้ร้บความสนใจอย่างสูง และทำให้หลายคนตื่นเต้นกับการเริ่มต้นของสิ่งใหม่นี้

แต่ถึงกระนั้น ด้วยความที่ Meta ได้กระโดดเข้าสู่การพัฒนา Metaverse อย่างรวดเร็วและเต็มกำลังตั้งแต่แรก ก็ส่งผลทำให้บริษัทไม่สามารถสร้างผลประโยชน์และกำไรได้มากเท่าที่ควร โดยเมื่อไตรมาสที่ 4 ของปี 2021 ที่ผ่านมา มีรายงานว่า Meta ได้สูญเงินจากการดำเนินธุรกิจไปถึง 10,000 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 370,000 ล้านบาท อีกทั้งมูลค่าในตลาดของ Meta ยังถูกปรับลดลงไปถึง 200,000 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 7.41 ล้านล้านบาท ด้วยกัน

นับตั้งแต่ต้นปี 2022 ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นยังคงผันผวนอย่างรุนแรงเนื่องจากความกลัวเศรษฐกิจถดถอย ซึ่งส่งผลกระทบทำให้บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่หลายราย ช่น Apple, Amazon และ Alphabet บริษัทแม่ของ Google เป็นต้น ต้องสูญเสียมูลค่าหุ้นไปบ้าง แต่สำหรับ Meta นั้น ได้รับผลกระทบอย่างหนักกว่าบริษัทอื่น โดยต้องสูญเสียมูลค่าหุ้นไปถึง 57%

และจากที่ซักเคอร์เบิร์กนั้นได้ถือหุ้นของ Meta มากถึง 350 ล้านหุ้น และสินทรัพย์ส่วนใหญ่ของเขาก็ผูกอยู่กับมูลค่าหุ้นของบริษัท ก็ส่งผลทำให้เขาต้องสูญเสียมูลค่าส่วนบุคคลในปี 2022 นี้ลงไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

แม้ว่าจะประสบปัญหามากมาย หลายฝ่ายก็ยังเชื่อว่าธุรกิจอื่นที่ Meta ได้ครอบครองอย่าง WhatsApp และ Instagram จะสามารถช่วยเหลือ Meta ในระยะยาวได้ต่อไป

Bloomberg ได้รายงานเสริมว่า เมื่อเดือนกันยายน 2021 ที่ผ่านมา มูลค่าหุ้นของ Meta เคยขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 382 เหรียญต่อหุ้น และทำให้ซักเคอร์เบิร์กมีความมั่งคั่งส่วนบุคคลมากถึง 142,000 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 5.26 ล้านล้านบาทในตอนนั้น