Google จัดกิจกรรม “Safer Songkran” เพิ่มทักษะดิจิทัลให้คนไทย

Google ประเทศไทย เดินหน้าสนับสนุนความปลอดภัยบนโลกออนไลน์ จัดกิจกรรม “Safer Songkran” ปีที่ 2 ภายใต้โครงการ Safer with Google เพื่อเชิญชวนให้คนไทยใช้ช่วงเวลาสงกรานต์ในการส่งมอบความห่วงใยและส่งเสริมความปลอดภัยทางดิจิทัลให้กับตัวเองและครอบครัว

โดยในปีนี้ Google ได้จัดทำกิจกรรมพิเศษทั้งออฟไลน์และออนไลน์เพื่อเข้าถึงคนไทยทุกกลุ่มวัย ได้แก่ ป็อปอัพอีเวนต์ ‘Safer Songkran’ เพื่อให้ความรู้คนไทยในการใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัยและสร้างสรรค์ผ่านกิจกรรมสนุกๆ ที่ลานหน้า Lido Connect ระหว่างวันที่ 29 มีนาคม – 2 เมษายน 2566 และยังจับมือกับ 12 ครีเอเตอร์ชั้นนำในการสร้างสรรค์คอลเลกชันสวัสดีประจำวันและทำคอนเทนต์แนะเคล็ดลับและเครื่องมือเสริมความปลอดภัยออนไลน์ตลอดช่วงสงกรานต์นี้

แจ็คกี้ หวาง Country Director, Google ประเทศไทย กล่าวว่า “วันนี้เรามีความยินดีที่ได้นำกิจกรรม Safer Songkran กลับมาจัดอีกครั้งเป็นปีที่ 2  เนื่องจากในปัจจุบันคนไทยตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงออนไลน์มากขึ้น ดังนั้นการเพิ่มทักษะดิจิทัลให้คนไทยรู้เท่าทันกลลวงออนไลน์จึงเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะในกลุ่ม Gen Z และผู้สูงอายุซึ่งเป็นผู้ใช้อินเทอร์เน็ตหน้าใหม่ จากการวิจัยด้านความรับผิดชอบทางดิจิทัล หรือ Digital Responsibility ในประเทศไทยที่จัดทำโดยนีลเส็น พบว่าความกังวล 3 อันดับแรก คือ การแฮ็ก กลโกงออนไลน์ และการให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นไทยมีความกังวลเกี่ยวกับการแฮ็กมากที่สุด ดังนั้น Google จึงได้จัดกิจกรรมพิเศษนี้ขึ้นในช่วงก่อนเทศกาลสงกรานต์เพื่อเสริมทักษะดิจิทัลให้คนไทยและให้คนในครอบครัวได้ใช้โอกาสที่ได้พบปะกันครั้งนี้แบ่งปันข้อมูลที่จะช่วยให้คนไทยทุกคนสามารถท่องโลกออนไลน์ได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย สอดคล้องกับความมุ่งมั่นของ Google ในการลดช่องว่างดิจิทัลเพื่อให้คนไทยทุกเพศทุกวัยเข้าถึงโอกาสที่มาพร้อมกับอินเทอร์เน็ตได้อย่างเต็มที่ภายใต้แนวคิด Leave No Thai Behind”

สำหรับกิจกรรม “Safer Songkarn” ของ Google ในปีนี้จะเกิดขึ้นทั้งช่องทางออฟไลน์และออนไลน์เพื่อเข้าถึงคนไทยทุกกลุ่มวัย ได้แก่ 

ป็อปอัพอีเวนต์ ‘Safer Songkran’ ที่จะทำให้ความปลอดภัยออนไลน์เป็นเรื่องใกล้ตัวและสนุกสนาน

เพราะความปลอดภัยในการใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเรื่องสำคัญในชีวิตประจำวันของคนทุกวัย ในปีนี้ Google ได้จัดป็อปอัพอีเวนต์ Safer Songkran เพื่อให้ความรู้และเตรียมความพร้อมในการรับมือกับภัยออนไลน์รูปแบบต่างๆ อาทิ ข้อมูลบิดเบือนหรือข่าวลวง สแกม มัลแวร์ และการกลั่นแกล้งบนอินเทอร์เน็ต ซึ่งนอกจากการใช้ป้องกันตัวเองแล้วยังใช้เป็นเครื่องเตือนใจให้คนไทยได้หยุดคิดก่อนที่จะโพสต์หรือแสดงความคิดเห็นต่างๆ บนโลกออนไลน์ รวมถึงแนะนำเครื่องมือและฟีเจอร์ที่จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเพิ่มความแข็งแรงของพาสเวิร์ด จัดการกับความเป็นส่วนตัวของบัญชี ความปลอดภัย รวมถึงส่งเสริมสุขภาวะดิจิทัลได้อย่างง่ายดาย ซึ่งป็อปอัพอีเวนต์นี้จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 มีนาคม – 2 เมษายน ศกนี้ ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น. ณ ลานด้านหน้า Lido Connect สยามสแควร์ ผู้ที่สนใจสามารถเข้าชมและร่วมกิจกรรมฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย โดยนอกจากจะได้เรียนรู้เคล็ดลับความปลอดภัยแล้ว ผู้ร่วมงานจะได้สร้างสรรค์รูปสวัสดีประจำวันพร้อมเคล็ดลับความปลอดภัยในแบบของตัวเองเพื่อนำไปใช้ส่งต่อในโซเชียลมีเดีย ปรุงพาสเวิร์ดสูตรลับกับเครื่องดื่มแก้วพิเศษที่ SafeTea Cafe และยังมีสิทธิ์ลุ้นรับของรางวัลอีกมากมาย

คอลเลกชันสวัสดีประจำวันที่ใครๆ ก็ใช้ได้ 

Google ร่วมกับกลุ่มครีเอเตอร์จากเพจชื่อดัง ได้แก่ มนุษย์ต่างวัย, Little Monster, ตายายสอนหลาน, chong nom, CountUp, มนุษย์ลูก และ คุณยายหงส์ทอง ในการสร้างสรรค์รูปภาพสวัสดีประจำวันทั้ง 7 วันที่มาพร้อมเคล็ดลับความปลอดภัยบนโลกออนไลน์ เพื่อให้คนไทยสามารถนำภาพสวัสดีวันต่างๆ พร้อมเคล็ดลับเหล่านี้ไปส่งต่อให้กับคนในครอบครัว โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากการที่ผู้สูงอายุไทยนิยมส่งรูปภาพประจำวันเพื่อทักทายคนในครอบครัวผ่านทางโซเชียลมีเดีย Google จึงเลือกคอนเทนต์สวัสดีประจำวันแบบไทยๆ นี้มาใช้เป็นสื่อกลางในการรณรงค์เรื่องความปลอดภัยในการใช้อินเทอร์เน็ตที่คนในครอบครัวสามารถส่งให้กันและกันได้ ไม่จำกัดแค่ผู้สูงวัยเท่านั้น โดยผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลดภาพสวัสดีแต่ละวันได้ที่เพจของครีเอเตอร์หรือทาง https://goo.gle/SaferSongkran 

ร่วมมือกับ YouTube ครีเอเตอร์ แชร์เคล็ดลับและเครื่องมือเพื่อความปลอดภัยออนไลน์ 

สงกรานต์ปีนี้ Google ยังได้จับมือกับ 5 YouTube ครีเอเตอร์ชั้นนำ ได้แก่ ช่อง ครูหนึ่งสอนดี, ถามอีก กับอิก, Abdulthaitube, Point of View และ spin9 ในการสร้างคอนเทนต์เพื่อให้ความรู้แก่คนไทยเกี่ยวกับความปลอดภัยบนโลกออนไลน์ในด้านต่างๆ และวิธีรับมือกับการให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง เพื่อให้คนไทยตระหนักถึงความสำคัญของความปลอดภัยทั้งออฟไลน์และออนไลน์ โดยสามารถติดตามชมคลิปวิดีโอจากเหล่า YouTube ครีเอเตอร์ทั้ง 5 ช่องได้บนเพลย์ลิสต์ YouTube ช่อง Google Thailand ในวันที่ 10 เมษายน เป็นต้นไป โดยการจัดทำคอนเทนต์กับบรรดาครีเอเตอร์เพิ่มเติมในครั้งนี้นับเป็นการต่อยอดความสำเร็จจากปีที่ผ่านมาซึ่งมียอดวิวรวมกว่า 2.3 ล้านวิว 

สายใย สระกวี หัวหน้าฝ่ายสื่อสารองค์กรและมวลชนสัมพันธ์ Google ประเทศไทย กล่าวว่า “ในช่วง 2-3 ปีนี้ เราเห็นคนไทยตื่นตัวเรื่องภัยออนไลน์เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยในปี 2566 นี้ ผู้คนในไทยค้นหาเกี่ยวกับ “การให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง” (Misinformation) และ “กลโกง” (Scam) สูงสุดเป็นประวัติการณ์ รวมถึง “การหลอกลวงทางข้อความ” (SMS Phishing) ที่กลายเป็นหัวข้อด้านความปลอดภัยไซเบอร์ที่ถูกค้นหามากเป็นอันดับหนึ่งในปี 2565 Google จึงเล็งเห็นความสำคัญของการทำให้อินเทอร์เน็ตเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน ผ่านการให้ความรู้ ผลิตภัณฑ์และฟีเจอร์ต่างๆ ที่เป็นประโยชน์และคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของผู้ใช้ รวมทั้งการยืนยันแบบ 2 ขั้นตอน หรือ 2SV (2-Step Verification) ที่ได้เปิดใช้งานให้กับผู้ใช้โดยอัตโนมัติเมื่อปีที่ผ่านมา และเพื่อร่วมเฉลิมฉลองวัน International Fact-Checking Day ควบคู่ไปกับเทศกาลสงกรานต์ เราได้อัปเดตฟีเจอร์ ‘About This Result’ ภาษาไทยบน Google Search เพื่อให้คนไทยสามารถประเมินความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยของเว็บไซต์ได้อย่างสะดวกและง่ายดาย โดยสามารถตรวจสอบแหล่งที่มาของข้อมูล ความปลอดภัยเมื่อเชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์นั้นๆ เพียงแค่กดปุ่มสามจุดด้านขวาบนของผลการค้นหา ซึ่งจะพร้อมให้บริการในประเทศไทยในวันที่ 31 มีนาคมนี้”

Google เชื่อมั่นว่าเครื่องมือความปลอดภัยออนไลน์ที่สามารถเข้าถึงและใช้งานง่ายและการเพิ่มทักษะความรู้เท่าทันดิจิทัลสำหรับคนไทยเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุที่อาจจะเพิ่งเริ่มใช้อินเทอร์เน็ตและมักจะตกเป็นเป้าหมายของอาชญากรไซเบอร์ได้ง่าย และกลุ่ม Gen Z ที่เป็นกลุ่มที่โตมาพร้อมเทคโนโลยีและใช้เวลาออนไลน์เป็นประจำ ยิ่งหากมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความปลอดภัยบนโลกออนไลน์รวมถึงมีเครื่องมือที่เหมาะสม กลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่ก็จะสามารถเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเพื่อนและครอบครัวของพวกเขา รวมถึงสมาชิกในบ้านที่สูงวัยกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองเทศกาลสงกรานต์ปีใหม่ไ่ทยที่ใกล้จะถึงนี้ ที่ทุกคนสามารถแสดงความรัก และดูแลซึ่งกันและกันด้วยการส่งต่อคำแนะนำดีๆ เพื่อดูแลความปลอดภัยทางออนไลน์ให้คนในครอบครัว