ถึงแม้ว่าอีกไม่กี่สัปดาห์ Apple จะมีการเปิดตัวอุปกรณ์สินค้าใหม่ในช่วง 1–2 เดือนที่จะถึงนี้แน่นอนว่าคาดว่าจะมีการเปิดตัวอุปกรณ์หลายตัวจะเปิดตัว แต่ก็มีอุปกรณ์ที่ไม่แนะนำให้ซื้อเช่นเดียวกัน คำถามคือจะมีชิ้นไหนบ้าง และเพราะเหตุผลอะไรบ้างนั้นล่าสุดได้รวบรวมให้ได้คุณลองพิจารณากันมาเริ่มกันเลย
AirPods Pro
ชิ้นแรกคือ หูฟังแบบ TWS ที่ได้สเปกสูงสุด ซึ่งเปิดตัวมาแล้วกว่า 1,000 วัน ถือว่าออกมานานเลยตั้งแต่ 28 ตุลาคม 2019 และมีการปรับตัวโฉมเป็นกล่องแบบ MagSafe ในช่วงเดียวกับที่ AirPods รุ่นที่ 3 เปิดตัว จนกระทั่ง iPods Touch เลือกจำหน่ายในปีนี้ก็ยังมี AirPods Pro วางจำหน่าย
อย่างไรก็ตาม Ming-Chi Kuo ได้ออกมาเปิดเผยพร้อมกับ Mark Gurman จากสำนักข่าว Bloomberg ได้ออกมาเปิดเผยว่า AirPods Pro 2 อาจจะเปิดตัวในช่วงครึ่งหลังของปี 2022 หรืออาจจะเกิดขึ้นในปลายปี 2022 นี้ แต่ก็มีการคาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงสิ่งเหล่านี้
- ดีไซน์เดิม
- มาพร้อมกับฟีเจอร์ตรวจสอบการสวมใส่พร้อมกับ IR Sensor
- มีการอัปเกรดชิปคุณภาพเสียงให้มีคุณภาพสูง
- รองรับ Apple Lossless Audio Codec
- รองรับ Motion Sensor ที่สามารถตรวจจับเพื่อโฟกัสกับการออกำลังกาย
- เพิ่มเสียงในการตามหา
Apple Watch Series 3
สำหรับ Smart Watch รุ่นเดอะที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2017 เรียกว่าทำการตลาดมา 5 ปีแล้วและยังได้อัปเดตเป็น watchOS 8 และมีชิป S3 จนเรียกได้ว่า เก่าจนรุ่นน้องแซงหน้าไปแล้วเช่น Apple Watch Series 7 รุ่นปัจจุบันก็มีความแรงที่ดีกว่า, จัดการพลังงานดีกว่า, จอใหญ่ขึ้น และดีไซน์ที่เหมาะสม เป็นต้น
แต่สิ่งที่ไม่แนะนำให้ซื้อก็เพราะว่าเมื่อ watchOS ไม่ได้อัปเดตต่ออาจจะทำให้การเชื่อมต่อกับ iPhone นั้นลำบากได้เช่นเดียวกัน รวมไปถึงพื้นที่นั้นอาจจะไม่เพียงพอถ้ามีการอัปเดตต่อไปเรื่อย และความเป็นไปได้ว่า watchOS 9 อาจจะไม่ได้ไปต่อในรุ่นนี้เช่นเดียวกัน
Apple Watch SE
แม้ว่า Apple Watch SE จะเปิดตัวตั้งแต่ปี 2020 เป็นรุ่นประหยัดลงมา แต่ว่าอาจจะมีรุ่นใหม่มาแทนในวันที่ Apple Watch Series 8 ภายในเดือนหน้า คาดว่า Apple Watch SE ตัวต่อไปจะได้ใช้ชิป S8 ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่ารุ่น S6 และ S7 ที่เปิดก่อนหน้านี้
ส่วนฟีเจอร์นันยังไม่ไม่ได้เปิดเผยรุ่นใหม่นี้จะมีการปรับปรุงอย่างไรและมีขนาดหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นหรือไม่คงต้องรอดูภายในเดือนหน้า
Apple Watch Series 7
อย่างที่ทราบกันดีว่า Apple Watch Series 7 นั้นมีอายุครบ 1 ปีในอีกไม่กี่เดือนแล้วการเปิดตัว Apple Watch Series 8 ก็จะเกิดขึ้นเช่นเดียวกัน จากข่าวลือการเปิดตัว Series 8 นั้นก็คาดว่าจะมีการเพิ่มทั้งฟีเจอร์และเซนเซอร์เช่นเดียวกัน ตามข่าวลือดังนี้
- ชิป S8
- เซนเซอร์วัดอุณหภูมิร่างกาย สำหรับวัดการนอน เป็นต้น
- เพิ่มฟีเจอร์ Low Power Mode
- หน้าจอใหญ่ขึ้นกว่าเดิม
- แบตเตอรี่ที่ใหญ่มากขึ้น
- การออกแบบใหม่และเลือกใช้หน้าจอเรียบ และเป็นแบบ Titanium alloy
ทั้งนี้ถ้าใครงบไม่ถึงและลงไว้กับรุ่นปัจจุบันก็สามารถรีบซื้อได้ก่อนที่รุ่นใหม่จะเปิดตัวน่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด
iPhone 12 / iPhone 13
มาถึง iPhone กันบ้าง แน่นอนว่าการมาของ iPhone 14 นั้นก็อาจจะมีการปรับปรุงรายละเอียดจนทำให้คนที่มองหา iPhone 12 และ 13 อาจจะลังเลได้ เพราะรุ่นใหม่นี้ จะไม่มีรุ่น Mini เหมือนกับ iPhone 12 และ iPhone 13 แต่ขยายเป็น iPhone 14 Max ขนาด 6.7 นิ้ว และยังมีกระแสข่าวลือออกมาดังนี้
- ชิป A15 เดิมแต่ปรับประสิทธิภาพใหม่
- RAM เพิ่มขึ้นเป็น 6GB แบบ LPDDR4X
- ปรับประสิทธิภาพของ 5G ให้ดีขึ้น
- รองรับ Wi-Fi 6E
- คาดว่าจะติดตั้งระบบติดต่อฉุกเฉินผ่านดาวเทียม
- กล้องหลังมุมกว้างจะได้รูรับแสง F/1.8
- กล้องหน้าความละเอียด F/1.9
ส่วนสีนั้นคาดว่าจะมีให้เลือกคือ ดำ, ขาว, ฟ้า, แดง และ ม่วง เมื่อการมานั้นก็อาจจะทำให้ iPhone 12 Mini และ iPhone 12 อาจจะเลิกจำหน่ายเลยก็เป็นได้ เว้นแต่ถ้าคุณมองหา iPhone 12 ราคาประหยัดก็คงมีโอกาสที่อาจจะเปิดตัวก็เป็นได้
iPhone 13 Pro
มาถึงรุ่นสูงกันบ้างด้วยเหตุผลเดียวกันกับ iPhone 14 เพราะถ้ารุ่นใหม่นั้นมาก็อาจจะทำให้หลายคนที่เริ่มมองหาตัว iPhone 13 Pro นั้นมองหา iPhone 14 Pro Series แทนไปได้เช่นเดียวกัน ทั้งนี้จากข่าวลือที่เปิดตัวออกมานั้นก็จะมีรายละเอียดดังนี้
- ชิปใหม่ล่าสุด A16 Bionic
- รองรับ Always On Display ที่ปรับแต่งใน iOS 16 โดยเฉพาะ
- ติ่งเล็กลงจากเดิม
- ขอบหน้าจอจะบางลง
- กล้องด้านหลังที่โดดเด่นใหญ่กว่าเดิม
- กล้องหลังความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายวิดีโอ 8K และมีเทคโนโลยี รวมเซ็นเซอร์ Pixel-Vinning
- เลนส์ 7 ชั้นในส่วนของ Telephoto
- กล้องหน้าความละเอียดเท่าเดิม F/1.9 และรองรับกับระบบ Auto Focus
- พื้นที่ความจุภายใน 256GB / 512GB / 1TB และ 2TB
ส่วนสีของเครื่องจะมีให้เลือกทั้ง Graphite, ทอง, เงิน และ ม่วง ทั้งนี้ก็มีข่าวว่าราคาอาจจะสูงขึ้นกว่าปีก่อนพอสมควร อย่างไรก็ตาม iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max นั้น อาจจะต้องยุติการวางจำหน่ายเมื่อ iPhone 14 Pro เปิดตัวยกเว้นตามร้านค้าหรือตัวแทนจำหน่ายบางที่เท่านั้น
iPad รุ่นที่ 9
ถึงแม้ว่า iPad รุ่นที่ 9 นั้นจัดว่าเป็นรุ่นถูกที่สุดก็ตามแต่ก็มีข่าวลืออกมาว่า iPad Gen 10 นั้นอาจจะเปิดตัวในเดือนตุลาคม ที่มีการเปลี่ยนแปลงมากพอสมควรทั้งหน้าจอ 10.5 นิ้ว, ขุมพลัง A14,ตัวเครื่องกว้างขึ้นและกล้องหลังเปลี่ยนไป, เปลี่ยนช่องเสียบเป็น USB-C และมาพร้อมกับเทคโนโลยี 5G
แต่ก็มีคำถามว่า Touch ID นั้นจะอยู่ที่เดิมหรืออยู่ที่ปุ่ม Power และรวมไปถึงกล้องหน้าจะเปลี่ยนแปลงแค่ไหน คงต้องรอติดตามกันต่อไป
iPad Pro
ถึงแม้ iPad Pro รุ่นล่าสุดจะเปิดตัวตั้งแต่ เมษายน 2021 ก็ตาม แต่ว่าด้วย iPad Pro มีการเปลี่ยนมาใช้ชิปแบบเดียวกับ Mac ก็มีความเป็นไปได้สูงว่า อาจจะต้องปรับโฉม โดย Mark Gurman และ Mac otakara ได้ออกมาเปิดเผยว่า iPad Pro จะเปิดตัวในเดือนตุลาคมนี้ โดยมีการเปลี่ยนแปลง 4 จุดได้แก่
- ชิป M2 ใหม่
- รองรับเทคโนโลยีชาร์จไฟไร้สายแบบ Mag Safe และ ปล่อยไฟให้อุปกรณ์อื่นได้
- เปลี่ยนช่องเสียบ Smart Connector ให้สามารถเสียบด้านข้างได้สบาย
- ปรับปรุงกล้องใหม่
เท่ากับอาจจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงไม่เยอะ แต่ถ้าใครกำลังจะซื้อ iPad เครื่องใหม่และกระเป๋าหนัก แนะนำให้รอดูในการเปิดตัวครั้งนี้
Mac Mini
น้องเล็กสุดของคอมพิวเตอร์สำหรับ Mac อย่าง Mac Mini คาดว่าจะต้องเปลี่ยนมาใช้ชิป M2 ที่มีประสิทธิภาพที่สูงกว่าเดิม โดยตามการเคลมจาก Ming-Chi Kuo ได้ยืนยันว่า Mac Mini ใหม่เปิดตัวแน่นอน โดยบอดี้ยังคล้ายกับรุ่นเดิมอยู่
แต่สิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงของ Mac Mini รุ่นปี 2022 ขุมพลังใหม่อย่าง M2 จะประจำการแทน แต่ถ้าอยากได้แบบโฉมใหม่หมด จะต้องรอถึงปี 2023 กันครับ
Mac Pro
สุดท้าย Mac Pro คอมพิวเตอร์ระดับ Work Station ที่ใช้ขุมพลังของ Intel อยู่ และยังไม่สามารถเปลี่ยนไปใช้ Apple Silicon ได้ด้วยทั้งนี้ก็มีข่าวจาก Mark Gurman ได้มีการเปิดเผยว่า Mac Pro อาจจะมีชิป M2 ตัวแรงออกมาให้เลือก 2 รุ่นทั้ง M2 Ultra และ M2 Extreme ที่เรียกได้ว่าจัดเต็มอยู่โดยมีรายละเอียดดังนี้
- M2 Ultra
- จะมี 20 Core แบ่งเป็น 16 Core แบบ Performance และ 4 Core แบบ ประหยัดพลังงาน
- GPU แบบ 64 Core
- Neural Engine แบบ 32 Core
- Unified Memory มีให้เลือกระหว่าง 64 – 128GB
- M2 Extreme
- จะมี 40 Core แบ่งเป็น 32 Core แบบ Performance และ 4 Core แบบ ประหยัดพลังงาน
- GPU แบบ 128 Core
- Neural Engine แบบ 64 Core
- Unified Memory มีให้เลือกระหว่าง 128 – 256GB
อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับขุมพลังใน Mac Pro รุ่นเดิมอย่าง Intel Xeon W นั้นมีเพียง 28 Core นั้นเมื่อเทียบกับขุมพลังนี้ก็ถือว่าแรงกว่าแบบเห็นได้ชัดและมีประสิทธิภาพของ M1 Ultra ใน Mac Studio ก็คาดว่าจะแรงกว่าเดิม ดังนั้น Mac Pro ก็อาจจะได้อิทธิพลส่วนนี้เมื่อใช้ขุมพลังดังกล่าวอาจจะได้ทั้ง เรื่องความเร็วมากกว่าแถมประหยัดพลังงานมากกว่า อาจจะทำให้ คนที่จะซื้อ Mac pro ใหม่อาจจะต้องคิดให้ดี
อย่างไรก็ตามราคาของเครื่องนั้นเริ่มต้นที่ 5,999 ดอลล่าร์สหรัฐฯ หรือ 216,xxx บาท ในราคาเริ่มต้น แต่ทั้งนี้ต้องรอติดตามกันต่อไปว่า รุ่นใหม่นั้นจะมีราคาประมาณไหนและจะเปิดตัวหรือไม่
ทั้งหมดนี้เราคงต้องลุ้นกันหนักว่าข่าวลือที่ปรากฏทั้งหมดนี้จะเป็นจริงหรือไม่ต่อไปและจะมีรุ่นไหนเปิดตัวในงานที่จะมีในต้นเดือนหน้า