เปิดราคา Infinix HOT 30 รุ่นใหม่ล่าสุดที่เน้นศักยภาพเล่นเกม ในราคาเริ่มต้น 4,499 บาท

อินฟินิกซ์ (Infinix) เปิดตัว Infinix HOT 30 Series เกมมิ่งโฟน รุ่นเริ่มต้นซีรีส์ใหม่อย่างเป็นทางการในประเทศไทย โดยเป็นประเทศแรกของโลก ภายใต้สโลแกนคอนเซปต์ “Booyah Now! – หนึ่งเดียว เพื่อชัยชนะ” หนึ่งเดียวที่มากับ RAM 8GB และสามารถผสาน RAM ได้สูงสุดถึง 16GB จัดเต็มครอบคลุมทุกการใช้งาน เหนือระดับด้วยชิปเซ็ตทรงพลังจาก MediaTek Helio G88

อินฟินิกซ์ (Infinix) เข้าใจความต้องการของผู้ใช้งานเป็นอย่างดี เราจึงมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ อยู่เสมอ เพื่อให้มือถือตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งล่าสุดได้ปล่อย Infinix HOT 30 Series อีกหนึ่งซีรีส์ที่ถือได้ว่าเป็นที่สุดแห่งการดีไซน์ โดยเป็นเกมมิ่งโฟนในตระกูล HOT เน้นจับกลุ่มวัยรุ่น วัยเรียน วัยทำงานระดับเริ่มต้นถึงระดับกลางที่ชื่นชอบการเล่นเกมบนมือถือและกลุ่มผู้ใช้งานที่ให้ความสนใจด้านเทคโนโลยีที่คุ้มค่า

โดยได้รับการอัปเกรดประสิทธิภาพทุกการใช้งานให้ดียิ่งขึ้น พร้อมชูจุดขายเป็นแบรนด์เดียวที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีการชาร์จเร็วสูงสุด 33W และให้แรมเยอะที่สุดในเรทราคาคุ้มค่าไม่เกิน 5,000 บาท และพิเศษสุดกับการผนึกกำลังพันธมิตรชั้นนำอย่าง Free Fire ร่วมกันครีเอท ลิมิเต็ดอิดิชัน บ็อกซ์เซ็ต และกิจกรรม HOT 30 Booyah Challenge NOW! เพื่อเอาใจเหล่าสาวกคอเกมตัวจริง โดยสมาร์ตโฟน ซีรีส์นี้เน้นชูจุดเด่น 3 หัวใจหลัก ดังนี้

สนุกทุกการใช้งาน ยาวนานตลอดวันด้วยชาร์จเร็วสูงสุด 33W

มอบประสบการณ์การเล่นเกมยาวนานด้วยเทคโนโลยีชาร์จเร็วปลอดภัยกำลังไฟ 33 วัตต์ ที่ช่วยให้แบตเตอรี่เต็มไว สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ถึง 55% ในเวลาเพียง 30 นาที และแบตฯ กลับมามีพลังงาน 100% ในเวลาอันรวดเร็ว มาพร้อมกับแบตเตอรี่อึด ถึก ทน ขนาดความจุ 5000mAh และเทคโนโลยีพาวเวอร์ มาราธอน

ซึ่งเป็นเทคโนโลยีซอฟต์แวร์เอกลักษณ์เฉพาะของอินฟินิกซ์ที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อเพิ่มอิสระในการใช้งานและช่วยให้ประหยัดพลังงานทำให้ไม่ต้องชาร์จบ่อย ๆ

สัมผัสประสบการณ์เล่นเกมอย่างมีสไตล์ ด้วยหน้าจอ 6.78 นิ้ว ลื่นไหล 90 Hz

สำหรับมือถือในซีรีส์นี้ โดยในรุ่นท็อปอย่าง HOT 30 ยกระดับการเล่นเกมและรับชมความบันเทิงที่เหนือระดับ ด้วยหน้าจอแสดงผลแบบเจาะรูขนาดใหญ่เต็มตา 6.78 นิ้ว ความละเอียดสูง 1080 พิกเซล ที่ให้ภาพสดใส คมชัด สวยงามสมจริง มาพร้อมกับการเล่นเกมแบบไร้ขีดจำกัด ลื่นไหล ไม่มีสะดุดด้วยอัตราการรีเฟรชที่ 90Hz และความเร็วในการตอบสนองบนหน้าจอ 270Hz

ความสว่างสูงสุด 600nit และขอบเขตสี 96% DCI-P3 เพื่อเพิ่มอรรถรสในการรับชมทุกความบันเทิงได้อย่างลงตัว

มอบประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีที่สุด เอาใจเกมเมอร์ด้วย MediaTek Helio G88

Infinix HOT 30 Series มีหัวใจการทำงานหลักด้วยชิปเซ็ทจาก Media Tek Helio G88 โดยถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่เร็วและแรงกว่าด้วย Octa-core และ Arm Cortex-A75 อันทรงพลัง โดยมีความถี่สูงถึง2.00GHz และ Arm Cortex-A75 แปดคอร์ที่ช่วยยกระดับความเร็วในการใช้งาน และยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี Dar-Link 3.0 AI Game Booster ที่เร่งประสิทธิภาพการเล่นเกม การโหลดฉาก คำนวณกราฟิก และควบคุมพลังงานได้ดียิ่งขึ้น

อีกทั้งยังมีเทคโนโลยีช่วยควยคุมอุณหภูมิ เพื่อเอาใจคอเกมและกลุ่มเด็กวัยรุ่นในเมืองร้อนอย่างประเทศไทยให้สามารถเล่นเกมได้เต็มอรรถรส ลื่นไหล ไม่มีสะดุดจากอาการเครื่องร้อน นอกจากนี้ ยังเสริมศักยภาพการใช้งานด้วยพื้นที่เก็บข้อมูลภายในความจุถึง 128GB แรมจากเดิม 8GB ขยายเพิ่มได้อีก 8GB จึงเสมือนได้แรมมากสุดถึง 16GB

ทั้งนี้ อินฟินิกซ์ยังตั้งใจมอบความพิเศษให้ผู้ใช้งานด้วยการจับมือกับ Free Fire ผลิตแพ็กเกจลิมิเต็ดอิดิชัน พร้อมครีเอทธีมลายวอลเปเปอร์บนมือถือ ด้วยการใช้คาแรกเตอร์หลักจากเกม และมอบไอเทมสุดเอ็กซ์คลูซีฟทั้งในเกมและนอกเกมมากมาย เพื่อตอกย้ำภาพความเป็นเกมมิ่งโฟนและเอาใจเหล่าสาวกคอเกมตัวจริง นอกจากนี้เตรียมพบกับเซอร์ไพรส์ในกิจกรรม

 HOT 30 Booyah Challenge NOW! ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนร่วมสนุกเพื่อลุ้นรับของรางวัล HOT 30 Free Fire Limited Box Set จำนวน 3 รางวัล และ Gift Code Alvaro Item สามารถร่วมสนุกได้ตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน – 9 พฤษภาคม 2566 เพียงถ่ายคลิปดูเอ็ทรีวิวมือถือ Infinix HOT 30 ตามสไตล์ของคุณ แล้วอัปโหลดคลิปลงในช่อง TikTok พร้อมติดแฮชแท็ก #InfinixHOT30FREEFIRE สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เพจเฟซบุ๊ก Infinix Mobile Thailand

สำหรับ Infinix HOT 30 Series มีให้เลือกทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ HOT 30 รุ่น 128+8, HOT 30i รุ่น 128+4 และ รุ่น 128+8 โดยสีที่วางจำหน่ายในประเทศไทยสำหรับรุ่น HOT 30 มีทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีเขียว (Surfing Green), สีดำ (Racing Black), สีขาว (Sonic White) และอีกรุ่น HOT 30i มีทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีฟ้า (Glacier Blue), สีดำ (Mirror Black), สีขาว (Diamond White) เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานที่หลากหลายในทุกไลฟ์สไตล์ได้อย่างลงตัว