เปิดตัว Huawei P60 Series เน้นกล้องให้สุด มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย

ในที่สุด Huawei P60 Series ได้เปิดตัวตามนัดหมาย หลังจาก รุ่นที่ผ่านที่เปิดตัวจะเว้นว่างกว่า 2 ปีในการพัฒนาตัวเครื่อง รอบนี้ Huawei มาให้โดยการเน้นไปที่กล้องและการพัฒนา Software และดีไซน์ที่สวยงามมาให้ ผ่านการใช้ XMAGE Technologies

Huawei P60 Pro จะมาพร้อมกับหน้าจอโค้งทั้ง 2 ด้านขนาด 6.67 นิ้ว OLED พร้อมกับ Refresh Rate ปรับได้ระหว่าง 1 – 120Hz แบบ LTPO แสดงผลสีดีขึ้น แต่ลดการใช้พลังงานลง 29% นอกจากนี้ติดตั้งเทคโนโลยี X-True ให้สีสันของภาพอบอุ่นและทั้งคู่ได้รับการรับรองจาก TUV Rheinland และยังใช้งานที่มืดได้ดี อัตราพื้นที่หน้าจออยู่ที่ 93.1% และกันน้ำระดับ IP68

ขุมพลังเป็น Snapdragon 8+ Gen 1 มาพร้อมกับความจำเริ่มตัน 128GB พร้อมกับ RAM 8 – 12GB ส่วนพื้นที่จัดเก็บภายในสูงสุด 1TB

กล้องหลังของ Huawei P60 Series มีความละเอียด 48 ล้านพิกเซล จะสามารถปรับรูรับแสงได้ระหว่าง F/1.4 – F/4.0 พร้อมกับรองรับการปรับความเร็วตามความเหมาะสมหรือ ten-speed physical smart variable aperture technology พร้อมกับ XD Fusion Pro ที่ช่วยเก็บรายละเอียดให้ภาพคมชัดใสในทุกสภาพแสง เซนเซอรรับสีแบบ RYYB เช่นเคย รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K

เลนส์มุมกว้างความละเอียด 13 ล้านพิกเซลสำหรับรุ่นปกติและรุ่น Pro แต่ถ้าเป็น Art จะเพิ่มเป็น 48 ล้านพิกเซล 

การซูมของ Huawei P60 Series จะมาพร้อมกับ Periscope ที่มาพร้อมกับระบบ Super Concentration Optical Image Stabilized สามารถซูมไปและกล้องป้องกันภาพสั่นไหวได้ และเป็นเลนส์ซูมที่มีค่ารูรับแสง F/2.1 ถือว่ามากพอสมควร และยังรองรับการซูมสูงสุด 100 เท่า โดยรุ่น Pro และ Art จะได้ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล 90 mm. แต่ถ้าเป็น P60 จะได้ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล 125 มิลลิเมตร

การถ่ายวิดีโอจะมีคุณภาพและสีสันที่ดีและมีโหมดของ Telephoto Night Mode สำหรับวิดีโอ, HDR, 4K อีกด้วย ส่วนการเชื่อมต่อ รองรับการติดต่อกับระบบดาวเทียมโดยรองรับการส่ง SMS ผ่านดาวเทียมได้ แต่ยังโทรผ่านดาวเทียมได้

แบตเตอรี่มีขนาด 4,815 mAh รองรับกำลังชาร์จไฟที่ 88W สามารถทำให้ไฟจาก 0 – 50% ในเวลาเพียง 10 นาทีเท่านั้น

Huawei P60 Art

นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัว Huawei P60 Art ที่มีการตกแต่งใหม่และมีการออกแบบเลนส์กล้องใหม่ พร้อมกับ 2 สีที่แตกต่างกัน  แต่สเปกได้แบบเดียวกับ Huawei P60 Series ที่ได้นำเสนอไปก่อนหน้านี้ และได้สเปกกับแบตเตอรี่ที่เหนือกว่า โดยรุ่นนี้ได้แบตเตอรี่ 5100 mAh และมีให้เลือกที่สี Blue Sea และ Quicksand Gold 

สีสันจะมีให้เลือกเยอะพอสมควร รุ่นปกติจะมีทั้ง  Feather Purple, Feather Black, Emerald และ Rococo White ส่วนราคา เริ่มต้นที่ 4,488 หยวนในรุ่นปกติและไปจนที่ 10,988 หยวน หรือ 54,900 บาท) ทั้งนี้ราคาตลาดโลกต้องติดตามกันต่อไป เพราะจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ 7 เมษายน นี้