เปิดตัว ASUS Zenfone 9 มือถือเล็กแต่กล้องดียังมีอยู่จริง

ASUS ได้เปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ในตระกูล Zenfone โดยรอบนี้มีชื่อรุ่นว่า Zenfone 9 ยังคงถ่ายทอด DNA จากรุ่นที่แล้วคือ ตัวเล็กแต่กล้องดีเหมือนเดิม รอบนี้ยังได้แบตเตอรี่อึดใช้งานยาวนานมากขึ้น

 

ขนาดของเครื่อง 146.6 x 68.2 x 9.5 มิลลิเมตร น้ำหนักแค่ 165 กรับเท่านั้นแต่ว่าภายในใช้ขุมพลัง Snapdragon 8+ Gen 1 และยังมีชุดระบายความร้อน vapor chamber ขนาดใหญ่

โดยความจุมีให้เลือกทั้งหมดดังนี้

  • RAM 8/128GB
  • RAM 8/256G2B
  • RAM 16/256GB 

 

โดย RAM เป็นแบบ LPDDR5 และ UFS 3.1 ไม่รองรับการเพิ่มความจำผ่าน MicroSD แถมยังมาพร้อมกับ Android 12 รองรับการอัปเกรดได้ 2 เวอร์ชั่นและ Security Patch ทั้งหมด 2 ปี กันน้ำแบบ IP68 บอดี้เป็นแบบโลหะและกระจกด้านหน้าเป็นแบบ Gorilla Glass Victus ครอบทับด้วยหน้าจอขนาด 5.9 นิ้ว ความละเอียด FHD+ หรือประมาณ 1080 x 2400 พิกเซล พร้อมกับ Refresh Rate 120Hz พร้อมเลือกปรับได้ทั้ง 60 / 90Hz

Touch Sampling Rate หรือ ความไวต่อการสัมผัส 240Hz ความสว่างทำได้สูงสุด 1,100 nits กันเลยทีเดียว คุณภาพสูงเพราะยังรองรับค่าสีตรงทั้ง deltaE

ทั้งนี้กล้องของ ASUS Zenfone 9 นั้นมีให้เลือกใช้ดังนี้

  • กล้องหลังจาก Sony IMX766 (ขนาดเซนเซอร์ 1/1.56, 1.0µm) พร้อมกับ Gimbal ทั้งหมด 6 แกนรองรับการเข้าใกล้หรือ Lossless Zoom ได้ 2 เท่า
  • กล้องตัวที่ 2 มุมกว้าง 113 องศา จาก IMX363 ขนาด 12 ล้านพิกเซล พร้อม Auto Focus และมี Macro Mode เข้าใกล้ได้ 4 เซนติเมตร
  • กล้องหน้าความละเอียด 12 ล้านพิกเซล dual Pixel และมี Auto Focus
  • ทั้งหมดสามารถบันทึกวิดีโอได้แบบ 4K 30 FPS ได้เป็นขั้นสูงสุด

นอกจากนี้ยังมีการจับมือกับ Qualcomm และระบบ Dirac ในการปรับแต่งระบบเสียงที่มี 2 ลำโพง ติดตั้งชิป  Qualcomm Aqstic amp แถมลำโพงเป็นแบบ 2 ลำโพงคุณภาพถือว่าเด็ดเพราะให้ขนาดลำโพง บน 10×12 มิลลิเมตร และล่าง 12×16 มิลลิเมตร รองรับaptX HD, LDAC, AAC แถมยังปรับแต่ระบบเสียงไมโครโฟนของหูฟังตาม Profile อีกด้วย

มาถึงเรื่องแบตเตอรี่ขนาดแค่ 4300 mAh ว่าเคลมว่าสามารถล็อคการชาร์จไฟได้ 80% โดยสามารถทำให้ แบตเตอรี่ทนมากขึ้น แต่ระบบชาร์จไฟเร็วกำลัง 30W ยังคงมีให้และยังปรับรูปแบบการชาร์จได้อย่างเหมาะสมผ่านที่ชาร์จติดกล่อง แถมยังมีฟีเจอร์ Game Genie ถอดแบบจาก ROG แต่ไม่ได้โหดมากเน้นการใช้งานมากกว่า

โดยราคานั้นเคาะที่ 800 ยูโร หรือ ประมาณ 29,xxx บาท คาดว่าจะเริ่มขายในอเมริกาเหนือ, ญี่ปุ่น, อินโดนีเซีย และ อเมริกาใต้เท่านั้น