เจาะลึกศักยภาพ ‘โดรนพิฆาต’ จากอิหร่าน – อาวุธเด็ดของรัสเซียในสงครามยูเครน

อาวุธที่สำคัญชนิดหนึ่งที่รัสเซียใช้ในสงครามรุกรานยูเครน คือโดรนชาเฮด (Shahed) ซึ่งผลิตในอิหร่าน และอาจกลายมาเป็นปัจจัยกำหนดความได้เปรียบในทางรบที่กำลังเกิดขึ้นอย่างดุเดือด

เนื่องจากเป็นโดรนราคาถูก และติดเทคโนโลยีนำทางเพื่อความแม่นยำ อาวุธชนิดนี้ที่รัสเซียนำมาเปลี่ยนชื่อเป็น เกอราน-2 จึงสามารถนำมาใช้ในปริมาณมาก และได้ชื่อว่า “ขีปนาวุธร่อนของคนจน” ตามรายงานของเอพี

โดรนชาเฮด ที่ติดระเบิดเพื่อการทิ้งตัวทำลายเป้าหมาย มีความคล้ายการโจมตีแบบ “กามิกาเซ่” ของญี่ปุ่นในสงครามโลกครั้งที่สองหรือการพุ่งชนเป้าหมายเพื่อให้เกิดการระเบิดเสียหาย

ข้อมูลของสื่อออนไลน์ยูเครน Defense Express อ้างตัวเลขจากอิหร่านที่ระบุว่า ชาเฮด เป็นโดรนรูปสามเหลี่ยม มีความยาว 3.5 เมตร กว้าง 2.5 เมตร นำ้หนักประมาณ 200 กิโลกรัม

โดรนชนิดนี้ติดเครื่องยนต์ 50 แรงม้า และมีความเร็วสูงสุด 114 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

เอพีรายงานว่าราคาของโดรนชาเฮดอยู่ที่ราว 2 หมื่นดอลลาร์ ซึ่งราคาคิดเป็นเศษเสี้ยวของขีปนาวุธเต็มรูปเเบบ อย่างเช่น ขีปนาวุธร่อนรุ่น คาลิเบอร์ (Kalibr) ของกองทัพรัสเซียที่ราคา 1 ล้านดอลลาร์ต่อลูก

​ก่อนหน้านี้ รัสเซียใช้ขีปนาวุธร่อนคาลิเบอร์ โจมตียูเครนอย่างกว้างขวางในช่วง 8 เดือนเเรกของสงคราม

โดรนชาเฮด เคยถูกใช้มาเเล้วในเยเมน และในการโจมตีเรือบรรทุกนำ้มันเมื่อปีที่เเล้ว ตามข้อมูลของ บีห์นาม เบน ตาเลบลู นักวิเคราะห์แห่งหน่วยงานคลังสมองในกรุงวอชิงตัน Foundation for Defense of Democracies

การนำ “โดรนพิฆาต” ชนิดนี้มาใช้ในยูเครนเวลานี้มีลักษณะน่าสนใจคือ แม้โดรนชาเฮดจะบินได้ไกล 1,000 กิโลเมตร แต่ผู้เชี่ยวชาญเรื่องโดรน แซเมล เบนเด็ตต์ แห่งองค์กรวิจัยด้านนโยบาย CNA กล่าวว่าระยะบินของโดรนดังกล่าวในสงครามยูเครนสั้นกว่านั้น

เขาอธิบายว่า สาเหตุที่โดรนบินในระยะที่ใกล้กว่าศักยภาพจริง เพราะต้องการหลีกเลี่ยงการถูกใช้เคลื่อนก่อกวนระบบนำทางจีพีเอสนั่นเอง

รัสเซียใช้โดรนชนิดนี้หลายลำโหมโจมตียูเครน เพื่อเลี่ยงความเสี่ยงถูกโต้กลับรุนเเรงต่อเครื่องบินรบล้ำสมัย และลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตของนักบินด้วย

นอกจากนั้นรัสเซียสามารถเก็บขีปนาวุธพิสัยไกลความเเม่นยำสูงที่มีอยู่อย่างจำกัด ไว้ใช้เมื่อถึงเวลาจำเป็น

สำหรับข้อจำกัดของโดรนชาเฮด มิโคลา เบไลสคอฟ นักวิจัยแห่งสถาบันยุทธศาสตร์ศึกษาของยูเครนกล่าวว่าระเบิดที่นำขึ้นไปกับโดรนจะมีนำ้หนักเพียง 40 กิโลกรัม

บไลสคอฟ กล่าวว่าปริมาณดังกล่าวถือว่าน้อยมากหากเทียบกับขีปนาวุธแบบปกติ ที่บินได้ไกลกว่ามากและสามารถติดระเบิดได้หนักถึง 480 กิโลกรัม

แต่โดรนชาเฮดยังคงสามารถสร้างความเสียหายที่รุนเเรงและส่งผลถึงขวัญกำลังในทหารยูเครนได้

ในการโจมตีเมื่อวันจันทร์ โดรนลำหนึ่งทิ้งตัวลงไปยังอาคารที่พักอาศัยและทำลายห้องพัก 3 ห้องและทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 คน

เบไลสคอฟ กล่าวว่าการโจมตีด้วยโดรนชาเฮด สร้างความหวั่นเกรงและความไม่มั่นใจในศักยภาพของระบบป้องกันทางอากาศของยูเครน

อย่างไรก็ตามเขาระบุว่า แม้รัสเซียจะใช้โดรนชนิดนี้จำนวนมาก แต่สิ่งที่รัสเซียไม่ได้กลับคืนมา คือดินแดนที่ยูเครนสามารถรุกคืบเข้าไปได้ในช่วงที่ผ่านมา