เกิดอะไรขึ้น? เมื่อหูฟังแบบมีสายกำลังกลับมาปังอีกครั้ง

Apple เริ่มถอดช่องเสียบหูฟังครั้งแรกเมื่อปี 2016 กับ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus หากต้องการฟังเพลงแบบมีสายจะต้องเปลี่ยนมาใช้พอร์ต Lightning หรือใช้ตัวแปลงแทน ถือว่าเป็นการเริ่มต้นสู่ยุคของหูฟังไร้สายแบบ True Wireless อย่างจริงจังด้วยการเปิดตัว AirPods แต่ดูเหมือนว่าหูฟังแบบมีสายจะเริ่มกลับมาปังอีกครั้งครับ

The Wall Street Journal รายงานว่าในยุคที่ทุกอย่างกำลังถูกจับเข้าสู่อุตสาหกรรมไร้สายก็มีเซเลบหลายคนถูกพบว่า “กลับมาใช้หูฟังแบบมีสายอีกครั้ง” อย่าง เบลล่า ฮาดีด (Bella Hadid) และ ลิลี่-โรส เด็ปป์ (Lily-Rose Depp) ทำให้กระแสการใช้หูฟังแบบมีสายเริ่มเข้ามาถึงหมู่วัยรุ่น Gen Z ด้วยเหมือนกัน (เกิดระหว่างปี 1997 – 2012)

นอกจากเรื่องเทรนด์แล้ว ผู้ใช้งาน TikTok ก็ใช้หูฟังแบบมีสายในการบันทึกคอนเทนต์ด้วยเหมือนกัน เนื่องจากหูฟังแบบมีสายมีความเสถียรที่มากกว่าหูฟังไร้สาย, ราคาถูกกว่า และอีกความเชื่อหนึ่งคือป้องกันอันตรายจากคลื่นหรือรังสีที่มองไม่เห็นจากตัวหูฟังไร้สาย (โดย FDA ระบุว่าคลื่นดังกล่าวไม่เป็นอันตราย) นอกจากนี้ การใช้หูฟังแบบมีสายยังมีผลต่อใจที่ทำให้ผู้ใช้งานเหมือนได้ย้อนกลับไปในยุค “2010s Tumblr” ด้วยนะ

จริง ๆ มีการวิจัยที่น่าสนใจระบุว่า ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจตกต่ำ มนุษย์มีแนวโน้มที่จะนึกถึงหรือโหยหาอดีตที่ทำให้สบายใจ เช่น ช่วงก่อนที่โซเชียลมีเดียจะบูมเหมือนทุกวันนี้ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีของ Gen Z ที่หลบจากความวุ่นวายต่าง ๆ

อีกหนึ่งประเด็นที่ไม่คิดเลยไม่ได้เลยเหมือนกันก็คือเรื่อง “ราคา” เนื่องจากหูฟังไร้สายแบบ True Wireless มีราคาค่อนข้างแพง และแบตเตอรี่อายุส่วนใหญ่ก็อยู่ได้ราว 2-3 ปี การใช้หูฟังแบบมีสายช่วยประหยัดเงินได้มากพอสมควร และยังอยู่ได้นานกว่าด้วย