รีวิว Xiaomi 13 Pro เรือธงที่เน้นการถ่ายภาพและความแรง จบที่ตัวนี้

Xiaomi เปิดตัว Xiaomi 13 Series ที่ประกอบด้วย Xiaomi 13 และ Xiaomi 13 Pro สำหรับในตอนนี้ทีม Hitech พาคุณมาสัมผัสกับ Xiaomi 13 Pro ตัวท็อปกันว่า มันโดดเด่นและน่าสนใจแค่ไหน มาสำรวจและติดตามกับรีวิวชุดนี้กันได้เลยครับ 

รายละเอียดสเปกของ Xiaomi 13 Pro  

  •  ขนาดตัวเครื่อง (ยาว x กว้าง x หนา) 162.9 x 74.6 x 8.38 มม. 
  • น้ำหนัก 229 กรัม 
  • หน้าจอ AMOLED  ขนาด 6.73 นิ้ว เทคโนโลยี E6 OLED Materials ความละเอียด 3200 x 1440 Refresh Rate 120Hz แบบ Adaptive Sync Pro ระหว่าง 1 – 120Hz ค่าสี TrueColor display, JNCD≈0.21, Delta E≈0.28, HDR 10+, HLG,Dolby Vsion Adaptive Reading Mode และ Sunlight Mode ความสว่างสูงสุด 1,900 nits พร้อมด้วย 1920 PWM dimming และ SGS Eye Care Display 
  • ชนิดกระจกกันรอย ไม่ได้ระบุแต่คาดว่า Gorilla Glass Victus 
  • ชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2 
  • กราฟิก : Adreno 740 
  •  RAM ขนาด 12GB 
  • พื้นที่จัดเก็บภายใน : 512GB 
  • พื้นที่จัดเก็บภายนอก : ไม่สามารถเพิ่มได้ 
  • การเชื่อมต่อ WiFi11 B/G/N/AC/6E(AX)/7(BE), Bluetooth 5.3, 4G, 5G, A-GPS, GPS 
  • ลำโพง : Dual Speaker บนและล่าง รองรับ Dolby ATMOS 
  • กล้องดิจิทัลด้านหน้า 
    • ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล Super Pixel 4-in-1 F.2.0 รองรับ Dynamic Frameing (0.8 – 1x) 
    • วิดีโอ : 1080p@30fps 
  • กล้องดิจิทัลด้านหลังจำนวน 3 ตัว เลือกใช้เลนส์ LEICA VARIO-SUMMICRON 1:1.9-2.2/14-75 ASPH. ประกอบด้วย 
    • กล้องหลังความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ใช้เซนเซอร์ IMX 989 ขนาด 1 นิ้ว รองรับ Super Pixel 4-in-1 รูรับแสง F/1.9 พร้อม multi-directional PDAF, Laser AF, OIS (HyperOIS) ระยะเลนส์ 23 มิลลิเมตร พร้อม One-Click AI Cinema , Xiaomi Pro Focus, Portrait Night Mode 
    • มุมกว้างความ 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/2.2 พร้อมกับมุมกว้าง 115 องศา หรือเลนส์ระยะ 14 มิลลิเมตร 
    • เลนส์ซูมระยะ 75 มิลลิเมตร หรือ 3.2x Optical ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล F/2.0 + OIS ซูมได้ 70 เท่า Xiaomi ProFocus และ Portrait Night mode 
    • วิดีโอถ่ายได้ที่ 8K @30 FPS / 4K@30/60fps, 1080p@30/60/120fps Slowmotion ช้าสุด 1,920FPS , HDR, gyro-EIS, สีแบบ 10-bit 
    • LED Flash 
    • ปรับค่าสีได้ทั้ง Leica Authentic Look & Leica Vibrant Look และฟิลเตอร์ จาก Leica ทั้งหมด 5 รูปแบบ 
  • ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่น :IP68 
  • ระบบปลดล็อค Face Recognition แบบ 3D ToF Scanner และ ระบบสแกนนิ้วในหน้าจอ 
  • แบตเตอรี่ความจุ 4820mAh 
  • รองรับระบบชาร์จไฟเร็ว 120W แบบ HyperCharge / 50W แบบ Wireless Turbo Charge / 10W Reverse Wireless Charging 
  • ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 13 + MIUI 14 
  • สี Ceramic Black, Ceramic White 

แกะกล่อง Xiaomi 13 Pro ด้วยสีดำเข้มๆ แบบนี้ ภายในประกอบด้วย 

  • ตัวเครื่อง Xiaomi 13 Pro 
  • เคสใส 
  • คู่มือการใช้งาน 
  • ใบรับประกัน 
  • Adapter กำลัง 120W  
  • เข็มจิ้มถาดใส่ซิมการ์ด 

รูปลักษณ์ดีไซน์ของ Xiaomi 13 Pro 

เริ่มต้นกับดีไซน์ของ Xiaomi 13 Pro จะออกแบบให้โค้งมนทั้งบนและล่าง ผิดกับรุ่นปกติที่จะได้ออกแบบให้เหลี่ยมสันมากกว่า ใครที่ชอบจอเรียบ มีทางเลือกเดียวคือซื้อรุ่นธรรมดา หน้าจอรุ่นนี้เลือกใช้เทคโนโลยี AMOLED E6 ใหม่ล่าสุดที่สามารถให้สีสันคงที่ลดความเมื่อยล้าของดวงตา ความสว่างสูงสุด 1,900 nits เมื่อเปิด Sunlight Mode ถือว่าเป็นหน้าจอที่เทคโนโลยีสูงอีกตัวหนึ่ง Refresh Rate แบบ Adaptive Sync ปรับได้ตั้งแต่ 1- 120Hz พร้อมมกับค่าสีที่ตรงมาก ไว้ลงรายละเอียดส่วนการแสดงผลในส่วนถัดไป 

ส่วนบนของหน้าจอมีการซ่อนลำโพงสนทนาเอาไว้พร้อมกับเซนเซอร์ติดตั้งกล้องหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซลไว้ตรงกลาง  

ด้านล่างมีปุ่มควบคุมสำหรับระบบปฏิบัติการ Android ทั้งนี้สามารถเปลี่ยนรูปแบบได้ทั้งหมด 2 รูปแบบคือ ปุ่มแบบที่เห็นและการปัด 

รอบตัวเครื่องเมื่อหน้าจอโค้งมนทำให้ขอบที่บางเฉียบแต่ว่าเป็นสีเงิน ผิดกับรุ่นพื้นฐานที่จะได้ขอบหนาจนนึกว่าเป็น iPhone  (แต่อย่าใส่เคสสลับกันน้ำ เพราะลองแล้ว ไม่สามารถใส่ได้) ฝั่งซ้ายไม่มีปุ่มอะไรทั้งสิ้น เว้นแค่เสาอากาศเท่านั้น 

ฝั่งขวามาพร้อมกับปุ่ม Power และปุ่ม ปรับระดับเสียง รอบนี้สามารถตั้งค่าให้ปุ่มให้เข้ากล้อง หรือ เรียกคำสั่งเสียงได้ในหน้าตั้งค่า 

ส่วนบนมีทั้งไมโครโฟน 2 ตัว, IR Blaster สั่งงานเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ และรวมไปถึงลำโพงตัวที่ 2 ที่ไว้ตำแหน่งเกือบกึ่งกลางของเครื่อง 

ส่วนล่างมีช่องใส่ซิมการ์ด Nano SIM ทั้งหมด 2 ช่อง, ช่องเสียบ USB-C ที่เสียบได้ทุกอย่าง, ไมโครโฟนตัวเครื่องทางด้านล่าง และลำโพงตัวหลักมีขนาดใหญ่กว่ารุ่น 13 แต่พอๆ กับรุ่น 12 Pro 

ด้านหลังสำหรับรุ่น 13 Pro จะเป็นเซรามิค จับสัมผัสแล้วลื่นๆ หน่อยแต่ดูแพงและมีน้ำหนักที่เยอะกว่า กล้องหลังติดตั้งทางด้านบน พร้อมกับความหนาของชิ้นเลนส์กล้องที่มากกว่ารุ่นปกติพอสมควร และมีการติดตั้ง NFC, Wireless Charger ภายในด้วยบ 

มาตรฐานกันน้ำ 

สำหรับ Xiaomi 13 Pro และ Xiaomi 13 ออกแบบให้สามารถกันน้ำได้มาตรฐาน IP68 เท่ากับกันน้ำได้ระดับหนึ่งแต่กันฝุ่นได้ดีพอสมควรเลยครับ 

น้ำหนัก / การจับถือ / สีสันของเครื่อง 

พูดได้อย่างหนึ่งสำหรับ Xiaomi 13 Pro คือ แม้ขนาดหน้าจอ 6.73 นิ้ว แต่ด้วยวัสดุและเทคโนโลยีกล้องที่อัดมาทำให้น้ำหนักเครื่องไปอยู่ที่ 229 กรัม ฟังดูแล้วน้ำหนักค่อนข้างเยอะ แต่ก็เป็นปกติสำหรับมือถือระดับนี้ที่มีน้ำหนักดูเยอะ แต่จริงๆ ถือมันกก็ออกแบบสมดุลดีในการจับถือ 

Xiaomi 13 Pro มีให้เลือกแค่ 2 สีเท่านั้นคือ Ceramic Black และ Ceramic White ที่ทีมได้รับมาทดลองนั่นเอง 

การแสดงผลหน้าจอ / ระบบเสียง 

สำหรับหน้าจอของ Xiaomi 13 Pro เป็นแบบ AMOLED E6 ที่มีสีสันของหน้าจอรุ่นนี้จัดหนักมาก รองรับเทคโนโลยี TrueColor display, JNCD≈0.21, Delta E≈0.28, HDR 10+, HLG,Dolby Vsion Adaptive Reading Mode และ Sunlight Mode ความสว่างสูงสุด 1,900 nits พร้อมด้วย 1920 PWM dimming และ SGS Eye Care Display ทำให้หน้าจอแสดงผลหน้าจอที่สวยงามอย่างมาก จนเรียกว่า สวยงมจัดเต็มเลยครับ 


ส่วนระบบบเสียงของ Xiaomi 13 Pro ถือว่าดังมาก แต่ว่าอาจจะไม่ได้ดังระดับรุ่นที่แล้วที่ให้ลำโพง 8 ตัว (บน 2 ล่าง 2) รอบนี้ไม่ได้แปะโลโก้ Harman/Kardon แล้ว แต่รองรับ Dolby ATMOS อยู่ครับลำโพงให้ตำแหน่งทั้งด้านบนและล่างโดยด้านบนอยู่ตรงกลาง แต่ถ้าด้านล่างอยู่ทางด้านขวาเท่านั้น 

ประสิทธิภาพ / การทดลองเล่นเกม 

AnTuTu = 1,260,605

 

Geekbench 5 / Geekbench 6

3DMark

ขึ้นชื่อว่าเรือธงกับขุมพลัง Snapdragon 8 Gen 2 กับคะแนนที่ออกมาแบบนี้ถือว่าไม่ต้องห่วงเรื่องความแรงเพราะมันตอบโจทย์ได้ดีมากในเรื่องความลื่นไหล ดังนั้น หมดห่วงสำหรับการเล่นเกมด้วย Xiaomi 13 Pro แต่อาจจะต้องลุ้นเรื่องขอบจอโค้ง ซึ่งไม่ใช่ปัญหา สามารถเปิดโหมดป้องกันได้ครับ 

ส่วนลูกเล่นสำหรับการเล่นเกม ได้ติดตั้ง Game Turbo ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์จัดการความจำ, ปรับประสิทธิภาพ CPU, การบันทึกหน้าจอ, ปิดการแจ้งเตือน เป็นต้น เรียกได้ว่าฟีเจอร์ในส่วนนี้ถือว่าลงตัวครับ และแนะนำให้ลองปรับเป็นระบบระบายความร้อนสูงสุดเพื่อทำให้เครื่องเย็นลงได้เร็วขึ้นจะดีกว่าครับ 

การเชื่อมต่อไร้สาย / ความแม่นยำในการจับพิกัด 

Xiaomi 13 Pro มาพร้อมกับการเชื่อมต่อแบบทันสมัยพร้อมกับ Wi-Fi 7, 5G Dual SIM, Dual Stanby, Bluetooth 5.3 และ GPS, A-GPS เมื่อทดลองใช้โทรและนำทางพบว่าการทำงานของตัวเครื่องเชื่อมต่อได้รวดเร็วทันใจจับพิกัดแม่แม่นยำแม้อยู่ใต้สะพาน 

ระบบปฏิบัติการ / ฟีเจอร์ภายใน / ระบบความปลอดภัย 

Xiaomi 13 Series มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ MIUI 14 พื้นฐานบน Android 13 ถือว่าเป็นรุ่นใหม่ล่าสุด มาพร้อมกับการทำงานที่ลื่นไหลและน้ำหนักของ UI เบาลงกว่าเดิม ทำให้เกิดความคล่องตัว การติดตั้งเครื่องมือเสริมน้อยทำให้ไม่มีอะไรหน่วงมากนัก แถมยังมีการยืนยันว่าจะได้อัปเดตระบบ 4 เวอร์ชั่น และ Security Patch ทั้งหมด 5 ปี เรียกว่ายาวนานมาก การทำงานแบบ Multi Window ยังคงทำได้กับบาง Application และรวมถึงหน้าต่างลอยหรือ Floating Window เช่นเดียวกัน แถมยังสามารถปัดทางซ้ายเพื่อเรียกเมนูด่วนสำหรับการเปิดโปรแกรมเพิ่ม หรือใช้นิ้วสั่งงานเช่นการ Capture Screen เป็นต้น 

นอกจากนี้เครื่องมืออื่นๆ ก็ยังมีติดตั้งมาให้เช่น Apps กระจกส่องหน้า, เครื่องคิดเลข, เครื่องอัดเสียง, เข็มทิศ, ระบบดูแลอุปกรณ์และอื่นๆ รวมถึงบริการที่สามารดาวน์โหลด Apps ผ่าน Google Play Store 

ระบบความปลอดภัยของเครื่องรอบนี้ Xiaomi ค่อนข้างให้ความสำคัญในเรื่องความเป็นส่วนตัวมากขึ้น มีการกำหนดเรื่องการขอใช้สิทธิ (Permission) ค่อนข้างละเอียด, เป็นพื้นที่ขั้นที่ 2 แยกเป็นมือถืออีกเครื่องได้ และที่สำคัญระบบสแกนนิ้วใช้เป็นแบบ Optical ในหน้าจอ โดยสามารถใช้วัดชีพจรได้ และมีระบบสแกนใบหน้าเช่นเคย 

เปิดกล้องลองถ่ายภาพ 

สำหรับสเปกกล้องของ Xiaomi 13 Pro นั้นถือว่าจัดเต็มอย่างมากเพราะรอบนี้ได้กล้องที่มีการพัฒนาร่วมกับ Leica ด้วยกันประกอบด้วย 

  • กล้องหลัง 
    • กล้องหลังความละเอียด 50 ล้านพิกเซล ใช้เซนเซอร์ IMX 989 ขนาด 1 นิ้ว รองรับ Super Pixel 4-in-1 รูรับแสง F/1.9 พร้อม multi-directional PDAF, Laser AF, OIS (HyperOIS) ระยะเลนส์ 23 มิลลิเมตร พร้อม One-Click AI Cinema , Xiaomi Pro Focus, Portrait Night Mode 
    • มุมกว้างความ 50 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/2.2 พร้อมกับมุมกว้าง 115 องศา หรือเลนส์ระยะ 14 มิลลิเมตร 
    • เลนส์ซูมระยะ 75 มิลลิเมตร หรือ 3.2x Optical ความละเอียด 50 ล้านพิกเซล F/2.0 + OIS ซูมได้ 70 เท่า Xiaomi ProFocus และ Portrait Night mode 
    • วิดีโอถ่ายได้ที่ 8K @30 FPS / 4K@30/60fps, 1080p@30/60/120fps Slowmotion ช้าสุด 1,920FPS , HDR, gyro-EIS, สีแบบ 10-bit 
    • LED Flash
    • ปรับค่าสีได้ทั้ง Leica Authentic Look & Leica Vibrant Look และฟิลเตอร์ จาก Leica ทั้งหมด 5 รูปแบบ 
  • กล้องดิจิทัลด้านหน้า 
    • ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล Super Pixel 4-in-1 F.2.0 รองรับ Dynamic Frameing (0.8 – 1x) 
    • วิดีโอ : 1080p@30fps 

ฟีเจอร์ภายในของกล้อง 

เมนูของกล้อง Xiaomi 13 / 13 Pro จะมีความแตกต่างจากเมนูมือถือของ Xiaomi ก่อนหน้านี้พอสมควร เพราะมีการพัฒนาร่วมกับ Leica ทำให้ icon ต่างๆ มีความต่างออกไป และเมีเทคโนโลยีเช่นการเลือกช่วยละลายหลังผ่านเลนส์ Pro Lens ของ Leica ทั้ง 

  • 50 mm. แบบขาวดำ 
  • 75 mm. เพิ่มสีสันเข้มขึ้น 
  • 90 mm. เน้นเรื่องละลายแบบ Soft Tone ใหม่  

นอกจาหนี้ยังมีตัวช่วยทำให้ถ่ายภาพในรูปแบบของ Leica มาเต็มๆ เช่น ฟิลเตอร์ของ Leica โดยรอบนี้ Leica เข้ามาปรับในเรื่องของการถ่ายภาพ, ระบบประมวลผล และรวมไปถึงการเพิ่มรูปแบบทั้ง Leica Authentic Look ที่เป็นเอกลักษณ์และ Leica Vibrant Look แล้วมันต่างกันยังไง เรามีคำอธิบายดังนี้ 

  • ‘Leica Authentic Look หรือภาพอันเป็นเอกลักษ์ของไลก้า’ ให้ภาพที่เป็นธรรมชาติซึ่ง เป็นลายเซ็นของไลก้าและเป็นที่ประจักษ์มายาวนานอยู่แล้ว โดยเกิดจากการคงไว้ซึ่งความคอนทราสต์ของแสงและเงา จะเพิ่มความรู้สึกของความลึกแบบสามมิติให้กับภาพถ่าย 
  • ‘Leica Vibrant Look หรือภาพที่มีชีวิตชีวาจากไลก้า’ ซึ่งได้ผสานข้อดีจากทั้งฝั่งเสียวหมี่และไลก้า โดยรวมเอาประสบการณ์ของเสียวหมี่ในการถ่ายภาพด้วยสมาร์ทโฟนเข้ากับความงามระดับแนวหน้าของไลก้าเข้าไว้ด้วยกัน เปิดโอกาสให้ช่างภาพสามารถพยายามจับช่วงเวลาสำคัญๆ ตามเอกลักษณ์ของไลก้าเอาไว้ได้บนสมาร์ทโฟน 

ส่วนลายน้ำสามารถเลือกได้ 2 แบบคือ มีแค่ชื่อ / Leica และ เป็นกรอบเต็มพร้อมรายละเอียดการถ่ายภาพมาแบบครบๆ ส่วนวิดีโอของกล้องรุ่นนี้รองรับการถ่ายได้สูงสุดที่ 8K, 4K 60FPS, 1080p 120FPS เรียกได้ว่าครบครัน และยังสามารถถ่ายวิดีโอสร้างสรรค์ได้ทั้งฟิลเตอร์ Leica, Slowmotion แบบช้าสุด 1,920 FPS, Timelapse, Clone, VLOG และ Movie Effece เป็นต้น 

ผลงานภาพจาก Xiaomi 13 Pro  

ผลงานภาพกลางวัน

0.6x
1x
2x
3.2x
10x
70x

ผลงานที่แสงน้อย



รูปแบบภาพอื่นๆ 



ผลงานภาพจากกล้องหน้าของ Xiaomi 13 Pro  


แม้ว่ากล้องหลังจะดู Perfect สเปกจัดเต็มกับเซนเซอร์ 1 นิ้วแต่ว่ากล้องหน้า กลับยังเลือกใช้ ยังคงได้เลือกใช้กล้องความละเอียด 32 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายภาพแบบ จัดเต็มและวิดีโอความละเอียด Full HD 30 FPS เท่านั้น ยังดีว่ามีมุมภาพที่กว้างปรับได้ระหว่าง 0.8 – 1x มาให้ 

แบตเตอรี่ / ระบบการชาร์จไฟ 

ใน Xiaomi 13 Pro ติดตั้งแบตเตอรี่ขนาด 4,850 mAh เท่านั้น เมื่อทดลองใช้งานแล้วพบว่าเอาตัวรอดได้ระหว่างวันได้สบายๆ ทั้งนี้ถ้าไม่ได้เล่นเกมจะเหลือแบตเตอรี่เยอะสมควร แต่ถ้า เล่นเกมบ่อยถ่ายภาพเยอะ แบตเตอรี่ก็จะหมดไวกลับบ้านก็ต้องชาร์จไฟสักหน่อยแล้วครับ แต่การทดสอบ PCMark จะอยู่ที่ราวๆ 12:36 ชั่วโมง แม้ไม่ได้อึดสุด แต่ก็ใช้คำว่า ยังพอไหวนะ 

ส่วนระบบการชาร์จไฟแบบสายแรงสุด 120W แม้ลืมชาร์จตอนกลางคืน เสียบชาร์จใช้เวลาไม่นานก็เต็มแล้ว ส่วนแบบไร้สายรองรับ 50W และใจดีปล่อยไฟกับอุปกรณ์อื่นๆ ได้ด้วยครับ 

สรุปหลังจากทีม Hitech ได้สัมผัสและใช้จริงกับ Xiaomi 13 Pro มาสักระยะเวลาหนึ่ง 

เรียกว่าห่างจากการสัมผัสมือถือเรือธงของ Xiaomi พักหนึ่งการกลับมาครั้งนี้ถือว่าสมกับความเป็นเรือธงที่ต้องจับตามองเพราะสเปกของเครื่องมาเต็ม พร้อมกับในเทคโนโลยีด้านการถ่ายภาพหนักแน่น จาก Leica ลูกเล่นเยอะ จนมีให้เกินในบางลูกเล่น แต่ภาพรวมแล้วถือว่ามีไว้ก่อนดีกว่าไม่มี แบตเตอรี่อาจจะไม่ได้ให้เยอะมาก แต่ก็ยังไว้ใจได้อยู่ในการใช้งานตลอดทั้งวัน 

มาถึงเรื่องราคาของมือถือรุ่นนี้อาจจะต้องบอกว่าเปิดอยู่ที่ 39,990 บาท นอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่นดังนี้

  • พิเศษ! สำหรับลูกค้าที่สั่งซื้อสมาร์ทโฟน Xiaomi 13 Pro หรือ Xiaomi 13 ล่วงหน้าในระหว่างวันที่ 1 – 10 มีนาคม 2566 รับฟรี! นาฬิกาอัจฉริยะ Xiaomi Watch S1 Pro มูลค่า 9,990 บาท และ Xiaomi Leica Premium Set มูลค่า 1,999 บาท รวมมูลค่าของ สมนาคุณ 11,989 บาท
  • โดย Xiaomi 13 Series จะวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในวันที่ 11 มีนาคม 2566 ที่ Xiaomi Store และร้าน ตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางร้านค้าออนไลน์ทุกแพลตฟอร์ม

ดังนั้นถ้าสรุปกับ Xiaomi 13 Pro สั้นๆ คือ เป้นมือถือที่เกิดมาเพื่อคนรับกการถ่ายภาพนิ่งมากกว่าสายวิดีโอ แม้ว่าจะมีการบอกว่าภาพวิดีโอจากที่ลองออกมาจัดว่าใช้ได้ แต่ลูกเล่นเอื้อไปทางภาพนิ่งซะมากกว่า แต่นี่เป็นอีกเครื่องยืนยันว่าการจับมีอกับ Leica ก็ทำให้ผลงานของกล้องดีขึ้นมากได้จริงและนี่เป็นอีกมือถือที่วางจำหน่ายทั่วโลกที่ใช้เซนเซอร์ใหญ่ที่สุดเช่นเดียวกัน ดังนั้น ใครขอบถ่ายภาพ และ ชอบ Leica รุ่นนี้ผมว่าเข้าไปอยู่ในใจไม่ยาก 

จุดเด่น 

  • การออกแบบสวยดูแพง 
  • สเปกแรงไว้ใจได้ระยะยาว 
  • ได้ระบบปฏิบัติการใหม่ 
  • การอัปเกรดยาว 
  • สเปกกล้องหายห่วงดีจริง 
  • แบตเตอรี่อึดกว่าที่คิด 
  • ชาร์จเร็วมาก 

ข้อสังเกต 

  • ราคาสูงกว่าปีก่อน 
  • เวลาถ่ายวิดีโอยังมีอการหน่วงในบางฟีเจอร์ 
  • น้ำหนักค่อนข้างมากไปหน่อย 
  • สีสันมีให้เลือก 2 สี 

แถมสักหน่อยสำหรับใครที่อ่านมาถึงบรรทัดนี้ แล้ว Xiaomi 13 ปกติล่ะเป็นอย่างไร ก่อนอื่นมาดูสเปกกันก่อนครับ  

รายละเอียดสเปกของ Xiaomi 13  

  • ขนาดตัวเครื่อง (ยาว x กว้าง x หนา) 152.8 x 71.5 x 7.9 มม. 
  • น้ำหนัก 189 กรัม 
  • หน้าจอ AMOLED  ขนาด 6.36 นิ้ว หน้าจอ E6 OLED Materials ความละเอียด 2400 x 1080 Refresh Rate 120Hz แบบ Adaptive Sync ค่าสี TrueColor display, JNCD≈0.32, Delta E≈0.36, HDR 10+, HLG,Dolby Vsion Adaptive Reading Mode และ Sunlight Mode ความสว่างสูงสุด 1,900 nits 
  • ชนิดกระจกกันรอย ไม่ได้ระบุแต่คาดว่า Gorilla Glass 5 
  • ชิปเซ็ตประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2 
  • กราฟิก : Adreno 740 
  •  RAM ขนาด 12GB 
  • พื้นที่จัดเก็บภายใน : 256GB 
  • พื้นที่จัดเก็บภายนอก : ไม่สามารถเพิ่มได้ 
  • การเชื่อมต่อ WiFi11 B/G/N/AC/AX(6E)/BE(7), Bluetooth 5.3, 4G, 5G, A-GPS, GPS 
  • ลำโพง : Dual Speaker บนและล่าง รองรับ Dolby ATMOS 
  • กล้องดิจิทัลด้านหน้า 
    • ความละเอียด 32 ล้านพิกเซล Super Pixel 4-in-1 F.2.0 รองรับ Dynamic Frameing (0.8 – 1x) 
    • วิดีโอ : 1080p@30fps 
  • กล้องดิจิทัลด้านหลังจำนวน 3 ตัว เลือกใช้เลนส์ LEICA VARIO-SUMMICRON 1:1.8-2.2/15-75 ASPH. ประกอบด้วย 
    • กล้องหลังความละเอียด 54/50 ล้านพิกเซล ใช้เซนเซอร์ IMX 800 รองรับ Super Pixel 4-in-1 รูรับแสง F/1.8 พร้อม multi-directional PDAF, Laser AF, OIS (HyperOIS) ระยะเลนส์ 23 มิลลิเมตร พร้อม One-Click AI Cinema 
    • มุมกว้างความ 12 ล้านพิกเซล รูรับแสง F/2.2 พร้อมกับมุมกว้าง 120 องศา หรือเลนส์ระยะ 15 มิลลิเมตร 
    • เลนส์ซูมระยะ 75 มิลลิเมตร หรือ 3.2x Optical ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล F/2.0 
    • วิดีโอถ่ายได้ที่ 8K@30FPS / 4K@30/60fps, 1080p@30/60/120fps Slowmotion ช้าสุด 1,920FPS , HDR, gyro-EIS, สีแบบ 10-bit 
    • LED Flash 
    • ปรับค่าสีได้ทั้ง Leica Authentic Look & Leica Vibrant Look และฟิลเตอร์ จาก Leica ทั้งหมด 5 รูปแบบ 
  • ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่น :IP68 
  • ระบบปลดล็อค Face Recognition แบบ 3D ToF Scanner และ ระบบสแกนนิ้วในหน้าจอ 
  • แบตเตอรี่ความจุ 4500mAh 
  • รองรับระบบชาร์จไฟเร็ว 67W แบบ Turbo Charge / 50W แบบ Wireless Turbo Charge / 10W Reverse Wireless Charging 
  • ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 13 + MIUI 14 
  • สี Black, White, Flora Green 

สำหรับ Xiaomi 13 รุ่นเล็กนี้มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.36 นิ้ว เมื่อเทียบการถือมือถือที่มีขนาดใกล้เคียงกันแล้ว พบว่า หน้าจอของ Xiaomi 13 จะมีพื้นที่เยอะกว่า มือถือบางรุ่นในระดับเดียวกัน ขอบเหลือน้อยพอสมควรเลยครับ น่าเสียดายความละเอียดนั้นเป็นเพียงแค่ Full HD เท่านั้น 

ขอบเครื่องที่ออกแบบเหลี่ยมนอกจากพาเครื่องตั้งได้แล้วใครที่มีปัญหากับหน้าจอโค้งมน ส่วนนี้ก็ช่วยได้เยอะ 

ขนาดของกล้องเล็กกว่ารุ่น Pro ค่อนข้างชัด แต่แลกกับน้ำหนักที่เบา ลูกเลนนั้นแทบจะคัดลอกกันมาไม่ได้แตกกันมา เว้นแต่รายละเอียดของกล้องที่จุดนี้ต่างกันสิ้นเชิง แต่ลูกเล่นต่างๆ ไม่ได้ลดทอนมากนัก  

Leica Vibrant

Leica Authenitic




ด้วยความที่ราคาเบากว่าประมาณหนึ่ง กับดีไซน์ Boxy Style เชื่อว่าก็เป็นอีกทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการมือถือที่พกง่าย จับมั่นใจ จอสวยระดับหนึ่ง สเปกอาจจะไม่สุดทาง เหมือนตัวโปร แต่ก็เป็นที่เพิ่งพาได้อยู่กับราคา 29,990 บาท แถมสี Flora Green ที่เห็นนี้ถือว่าสวยงามอยู่นะ