สวัสดีครับ!!! กลับมาพบกันอีกครั้งกับการแกดเจ็ต (Gadget) และผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ ๆ หลังการเปิดตัวและจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทย สำหรับคิวล่าสุดนี้เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าของ Dyson อย่างเจ้า Dyson Omni-glide เครื่องดูดฝุ่นรุ่นใหม่ล่าสุดในครอบครัว Dyson และแน่นอนว่ามันคือผลิตภัณฑ์ตัวแรกของไดสันที่เราได้รีวิวในปีนี้ บอกเลยว่า Dyson Omni-glide ตัวนี้ถ้าได้อ่านรีวิวเชื่อว่าสาว ๆ หลายคนได้เสียเงินกันแน่นอน
แน่นอนว่าด้วยเป็นไดสัน อะไรที่ดูธรรมดาก็ไม่ใช่เขาแล้ว ดังนั้นสำหรับเจ้าเครื่องดูดฝุ่นไร้สายรุ่นใหม่ล่าสุด Dyson Omni-glide ที่กำลังจะเริ่มรีวิวให้ได้อ่านกันนั้นมันคือการเปลี่ยนโฉมวิธีการทำความสะอาดบนพื้นบ้านรูปแบบใหม่ ซึ่งเป็นเครื่องดูดฝุ่นของ Dyson รุ่นแรกที่ออกแบบมาเพื่อให้เหมาะกับชีวิตคนในเมืองที่ต้องการทำความสะอาดเป็นประจำ และหน้าตาเป็นมิตรกว่าเดิม
โดยเฉพาะผู้ใช้ที่ชอบดูดฝุ่นบ่อย ๆ และไม่สามารถดูดฝุ่นตามซอกมุมต่างๆ ของบ้านได้ดีมากขึ้น หัวดูดทำความสะอาดขนนุ่มที่สามารถเคลื่อนที่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ควบคุมได้ทุกทิศทาง ไม่ว่าจะไปข้างหน้า ข้างหลัง และแม้กระทั่งด้านข้าง เป็นการจัดเรียงรูปแบบ In-Line ขึ้นใหม่ ทำให้สามารถวางเครื่องราบกับพื้นบ้านเพื่อทำความสะอาดในพื้นที่แคบได้
อุปกรณ์ที่ให้มาในกล่อง
- เครื่องดูดฝุ่น Dyson Omni-glide สีม่วง/เหล็ก/นิกเกิล
- ข้อต่อหลัก พร้อมกับหัวแบบ Omnidirectional Fluffy
- หัว Combination
- หัว mini motorised
- หัว worktop
- คู่มือการใช้งาน
- แท่นยึดติดผนัง
- สายชาร์จ
รูปร่างและการดีไซน์ภายนอกของเครื่องดูดฝุ่น Dyson Omni-glide รุ่นใหม่
รอบนี้เราได้ Dyson Omni-glide สีม่วง/เหล็ก/นิกเกิล มารีวิวครับ(จริง ๆ แล้วมันก็มีสีเดียวแหละ) Dyson Omni-glide เป็นเครื่องดูดฝุ่นไร้สายขนาดกะทัดรัดแบบใหม่ของ Dyson ออกแบบมาให้เหมาะกับชีวิตคนเมือง แนวทางใหม่ของการทำความสะอาดพื้น Dyson และเรียกว่ารุ่นนี้เป็นดีไซน์แบบใหม่ที่แตกต่าง ๆ จากรุ่นพี่ ๆ ในตระกูลไดสัน
Dyson Omni-glide มาพร้อมความกว้าง : 9.1 ซม., ความสูง : 107.7 ซม.และมีน้ำหนัก 1.9 กิโลกรัมเท่านั้น ถือว่าเป็นเครื่องดูดฝุ่นของไดสันอีกตัวที่น้ำหนักเบาในตอนนี้ครับ
Dyson Omni-glid กับดีไซน์ใหม่ทรงไม้กวาด
เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson Omni-glide ได้รับการออกแบบทางวิศวกรรมด้วยรูปแบบ อินไลน์ (In-Line) โดยมีระบบจัดวางแยก ตัวมอเตอร์ ตัวกรอง และด้ามจับให้อยู่ในแนวเดียวกันทั้งหมด
เพื่อให้เครื่องสามารถวางราบกับพื้นและทำความสะอาดในพื้นที่แคบได้ เช่น ด้านใต้โซฟา หรือตามซอกเฟอร์นิเจอร์ การจัดวางรูปแบบใหม่นี้เป็นผลมาจากการวิจัยมาแล้วเป็นอย่างดี
หัวดูด Omnidirectional Fluffy หัวหลักที่ไม่เหมือนใคร ทำความสะอาดแบบทุกทิศทาง
แปรงหลักมาพร้อมกับดีไซน์ส่วนคอแบบข้อต่อและลูกล้อทั้ง 4 ทำให้เครื่องดูดฝุ่น Dyson Omni-glide™ ขยับไปมารอบสิ่งกีดขวางได้อย่างง่ายดาย สามารถเลื่อนไปมาได้ทุกทิศทาง ทั้งข้างหน้า ข้างหลัง หรือแม้แต่ข้างๆ ได้แบบง่ายดายกว่าเดิมทำให้คุณเลื่อนทำความสะอาดได้ดีใช้แรงน้อยลง
อีกทั้งยังมีมอเตอร์ที่ถูกติดตั้งอยู่ภายในหัวแปรงช่วยให้ทำความสะอาดได้จนถึงสุดขอบของห้องโดยไม่มีสะดุด เรียกไดว่าแม้ฝุ่นจะอยู่ที่มุมๆ ก็ยังสามารถดูดติดทุกซอกทุกมุมเลยครับ
ภายในแปรงมีลูกล้อ 360 องศา ทั้ง 4 ตัว ช่วยให้หัวดูดทำความสะอาดเลื่อนไปมาได้ทุกทิศทาง ทำให้สามารถขยับไปรอบๆ สิ่งกีดขวางและทำความสะอาดในพื้นที่แคบได้สะดวก
ไฮไลท์หลักของรุ่นนี้ที่นอกจากดีไซน์ที่เหมือนกับไม้กวาดแล้วก็คงเป็นส่วนของ หัวดูด Omnidirectional Fluffy ที่ออกแบบมาให้สามารถทำความสะอาดได้รอบทิศทาง ไม่ว่าจะเดินหน้า ถอยหลัง หรือเคลื่อนที่ไปตามด้านข้าง สามารถดูดเศษผงขนาดใหญ่และเล็กได้อย่างง่ายดาย และยังหลบเลี่ยงสิ่งกีดขวางและทำความสะอาดในพื้นที่แคบได้
ส่วนการถอดทำความสะอาดหัวแปรง Omnidirectional Fluffy ทำได้ง่ายมาก แค่กดปุ่มสีแดง ทั้งด้านบนและล่าง แค่นี้ก็จะเป็นการปลดล็อคเพื่อนำออกมาเช็ดทำความสะอาดได้แล้วครับ
หัวดูดพื้นรุ่นแรกที่มีแกน FluffyTM สองแกน : ดูดสิ่งสกปรกชิ้นใหญ่ และ ฝุ่นขนาดเล็ก – ทั้งในขณะเคลื่อนที่ไปด้านหน้าและด้านหลัง
นอกจากนี้ในกล่องยังมีอุปกรณ์หัวดูดเสริมมาให้อีก 3 ชิ้นสำหรับใช้สำหรับทำความสะอาดบนที่สูง ด้านล่าง และตามที่ต่าง ๆ ทั่วไป อุปกรณ์เหล่านี้สามารถช่วยให้คุณทำความสะอาดได้ดีขึ้นแน่นอน
เริ่มกันที่หัวเสริมแบบแรกอย่างหัว mini motorised : ทำความสะอาดพื้นนุ่มอย่างล้ำลึก กำจัดสิ่งสกปรกฝังแน่นออกจากฟูกที่นอน เฟอร์นิเจอร์บุน่วมเช่น โซฟา เก้าอี้หนังทั่วไป และบันได รวมถึงพื้นพรม
ตัวที่สองเป็นหัวแบบ worktop : ทำความสะอาดรถยนต์ รูปทรงที่เพรียวบางนั้นเหมาะอย่างยิ่งสำหรับพื้นที่เล็กๆ อย่างเช่นในรถหรือเฟอร์นิเจอร์ หรือจะปรับให้แรงน้อยเพื่อทำความสะอาดคอมพิวเตอร์ Notebook ได้ด้วย
สุดท้ายคือหัวแบบ Combination หัวนี้ไว้สำหรับดูดสิ่งสกปรกในซอกเล็ก ๆ เอื้อมถึงจุดที่สูง ทำความสะอาดพื้นที่สูงๆ อย่างง่ายดาย แต่แนะนำใช้ข้อต่อสูงจะได้ทำความสะอาดพื่นที่สูงๆ รวมถึงบงกบหน้าต่างได้ด้วย
การเปลี่ยนหัวก็สามารถทำได้ไม่ยากเหมือนกันเครื่องดูดฝุ่นของ Dyson รุ่นอื่น ๆ ครับ อุปกรณ์ทุกชิ้นมีเครื่องหมายในการประกอบแสดงไว้ให้อย่างชัดเจน จะเชื่อมตรงจากตัวของเครื่องดูดฝุ่นโดยที่ไม่ต้องใส่ท่อแกนกลางก็ได้เลือกปรับเปลี่ยนได้ตามถนัด…
การใช้งานปุ่มกด เปลี่ยนจากการใช้คันเหนียวไกผลักไปเป็นปุ่มกดเปิด/ปิดและปุ่มเลือกโหมดแทน เพื่อให้คุณสามารถสลับมือไปมาได้ง่ายดายในระหว่างทำความสะอาดรอบๆ สิ่งกีดขวาง
มอเตอร์ Dyson Hyperdymium™ ลิขสิทธิ์จาก ไดสัน ทั้งเล็กและเบา หมุนด้วยความเร็วถึง 105,000 รอบต่อนาที เพื่อสร้างแรงดูดที่ทรงพลังสำหรับพื้นแข็ง
ด้วยไซโคลนที่กะทัดรัดและทรงพลัง ไซโคลน 8 ตัว สร้างพลังที่มีกำลังแรงถึง 98,000G เพื่อกำจัดฝุ่นขนาดเล็กมากจนมองด้วยตาเปล่าไม่เห็นออกจากกระแสลม
แบตเตอรี่แบบถอดใส่ได้ เซลล์ลิเธียมไอออน 4 ตัว มอบพลังดูดคงที่ต่อเนื่องสูงสุด 20 นาที10 ประสิทธิภาพของแบตเตอรี่แบบถอดใส่ได้ ช่วยเพิ่มระยะเวลาทำงานมากขึ้นเป็น 2 เท่า ให้คุณทำความสะอาดได้นานกว่าเดิม
ระยะเวลาการชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม 3.5 ชม. พร้อมสายชาร์จความยาว 1.8 เมตร
- ระยะเวลาใช้งานโหมด Eco : 20 นาที (เมื่อใช้หัวดูดแบบไม่มีมอเตอร์) และ 18 นาที (เมื่อใช้หัวดูดแบบมีมอเตอร์)
- ระยะเวลาใช้งานโหมด Boost : 5 นาที (เมื่อใช้หัวดูดทั้งแบบมีและไม่มีมอเตอร์)
ถ้าให้รวมระยะเวลาการทำงานนั้นแล้วถ้าดูดต่อเนื่องอาจจะทำความสะอาดได้ไม่ทั่ว แนะนำว่า ถ้าจะให้ให้ครบ ควรจะดูดแล้วเดินตายาวและมีซอกตรงไหนปัดกวาดให้ทั่ว จะทำให้ใช้มีประสิทธิภาพ ส่วนพลังสูงสุดให้ปรับแค่จุดที่ต้องการดูดทำความสะอาดกับจุดที่ฝั่งลึกจะดีกว่า
ปุ่มเปิดปิด: มีการออกแบบปุ่มเปิดปิดแทนตัวกดทริกเกอร์แบบคลาสสิก ซึ่งทำให้ผู้ใช้สามารถสลับมือขณะใช้งานได้ ทำให้การทำความสะอาดง่ายขึ้น
ถังฝุ่นที่เททิ้งได้อย่างง่ายดาย: เวลาจะถึงเศษฝุ่นหรือขยะก็ง่าย ๆ แค่ดึงคันโยกขึ้นฝาถังก็จะเปิด สามารถเทฝุ่นออกได้เลยโดยมือเราไม่ต้องไปสัมผัสกับสิ่งสกปรกใดๆเลย แต่ว่าควรนำจุดที่ทิ้งใกล้ๆ ถึงขยะ แล้วค่อยกด เพราะไม่งั้น มันจะหกลงพื้นเลอะเทอะครับ
ถังเก็บฝุ่นมาพร้อมขนาด 0.2 ลิตร
วิธีการทำความสะอาด เทฝุ่นไม่ยากและไม่ต้องสัมผัส ถังฝุ่นทรงตรง บาง และมีกลไกการดีดออกพร้อมตัวจับแบบหมุน ช่วยขับฝุ่นด้วยการเทออกเพียงครั้งเดียว และปลอกซิลิโคนผ้าห่อตาข่ายมีไว้เพื่อไม่ทำให้มือเปื้อนตอนเทฝุ่นออก
บำรุงรักษาง่าย: ในการทำความสะอาดเครื่อง คุณสามารถล้างถัง ตัวกรอง แถบแปรง และเครื่องมือต่าง ๆ ที่ไม่ใช่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ พูดง่ายๆ ก็คือส่วนนี้เราสามารถนำไปล้างน้ำสะอาดได้นั้นเองครับ แถมอีกนิด เช็ดด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์สักหน่อย เพื่อให้พร้อมใช้งานต่อไป
แบตเตอรี่แบบถอดได้ พลังงานสูง: แบตเตอรี่พลังงานสูงแบบ Click-in : เซลส์ลิเธียมไอออน 4 เซลส์ที่ให้พลังงานได้นาน 20 นาที และ ให้พลังงานคงที่สม่ำเสมอ การเปลี่ยนแบตเตอรี่ทำได้ง่าย ซึ่งผู้ใช้สามารถถอดและเปลี่ยนได้ด้วยการกดปุ่ม
แท่นชาร์จติดผนัง: ช่วยให้ผู้ใช้วางวางเครื่องดูดฝุ่น Dyson Omni-glide ที่แท่นชาร์จที่ยึดติดผนัง เพื่อให้พร้อมหยิบและนำไปใช้งานในครั้งต่อไปได้ทันที และการใช้ล็อคไม่ยาก
หลายคนคิดว่า มันจะต้องเจาะผนังบ้าน ให้เกิดความเสียหายแน่นอ แต่มันไม่ได้เป็นเช่นนั้นครับ เพราะในกล่องนั้นให้เทปกาว 2 หน้าแรงยึดติดสูงพิเศษสำหรับการยึดติดผนังมาให้คุณด้วยในกล่อง ไว้สำหรับติดกับกำแพงบ้าน ไม่ต้องห่วงเรื่องการเจาะอีกต่อไป
เล่าให้ฟังหลังได้ใช้งาน Dyson Omni-glide
เครื่องดูดฝุ่นไร้สายรุ่นนี้ทำออกมาได้ตอบโจทย์การใช้งานมาก ๆ ครับยิ่งสำหรับสาว ๆ ที่ต้องการเครื่องดูดฝุ่นที่มาพร้อมความสามารถในการขจัดฝุ่นได้อย่างดีเยี่ยมแล้วละก็ผมว่าชื่อของ ไดสัน การันตีแล้วว่าไม่ทำให้คุณผิดหวังอย่างแน่นอนครับ
ยิ่ง Dyson Omni-glide มาพร้อมกับดีไชน์ใหม่ลักษณะใกล้เคียงกับไม้กวาดด้วยแล้ว ทำให้การจับถือสามารถทำได้คล่องตัวมากยิ่งขึ้น บวกกับในรุ่นนี้ทางไดสันเขาตั้งใจพัฒนาให้มันมาพร้อมกับน้ำหนักที่เบามาก เบาเพียง น้ำหนัก : 1.9 กก. (ตัวเครื่อง) เท่านั้นและหัวแปรงหลักสามารถหมุนได้ 360 องศายิ่งทำให้ใช้งานได้ง่ายขึ้นเข้าถึงจุดเล็ก ๆ ได้เป็นอย่างดี ผมว่ามันเหมาะสำหรับสาว ๆ ที่อยู่คอนโด เพราะขนาดของเครื่องไม่ใหญ่ ดูแลรักษาง่ายมากสาว ๆ น่าจะถูกใจสิ่งนี้
ดังนั้น หากคุณใช้ชีวิตอยู่ในเมือง ในอพาร์ตเมนต์เล็ก ๆ หรือชอบทำความสะอาดเป็นประจำ เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson Omni-glide คือเครื่องดูดฝุ่นไร้สายที่สมบูรณ์แบบ เหมาะสำหรับความต้องการของคุณ
ราคาและการจำหน่าย
เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย Dyson Omni-glide ราคา 15,900 บาท มีให้เราคือสีม่วง/เหล็ก/นิกเกิล จะมีวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ทางหน้าเว็บไซต์ของ Dyson.co.th และร้าน Dyson Demo ที่เซ็นทรัลเวิลด์ เซ็นทรัลลาดพร้าว สยามพารากอน และไอคอนสยาม สินค้ารับประกัน 2 ปี