ปัญญาประดิษฐ์ตามไปทุกที่ แนวโน้มการใช้ AI ในด้านการท่องเที่ยว

ปัจจุบันโลกของเราอยู่ในยุคเทคโนโลยีเฟื่องฟูแบบไร้ขีดจำกัด เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI) เข้ามามีบทบาทในระบบเศรษฐกิจและทุก ๆ อุตสาหกรรมอย่างเห็นได้ชัด การพัฒนาที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ทำให้ AI ฉลาดขึ้นทุกวัน

เช่นเดียวกับอุตสาหกรรมอื่น ๆ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวก็ยินดีที่จะรับเทคโนโลยีดิจิทัลใหม่ ๆ มาใช้เสมอ กล่าวคือ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวก็ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี AI ด้วยเช่นกัน ซึ่งไม่เพียงยังประโยชน์เฉพาะช่วยเสริมการบริการของผู้ให้บริการให้ดีขึ้นเท่านั้น แต่ผู้ใช้บริการหรือนักท่องเที่ยวก็ได้ใช้ประโยชน์จาก AI ด้วย เพื่อประสบการณ์การเดินทางที่น่าประทับใจ สนุกสนาน และสะดวกสบายมากขึ้น

จะเห็นว่า AI กำลังมีบทบาทสำคัญต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว นวัตกรรมที่โดดเด่นของ AI สามารถใช้ประโยชน์ได้ครอบคลุมเกือบทุกขั้นตอน ตัวอย่างเช่น การใช้ AI ในแอปพลิเคชันการเดินทาง ลูกค้าจะได้รับบริการที่น่าพึงพอใจที่มาพร้อมกับความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ลูกค้าสามารถจองตั๋วเครื่องบิน จองโรงแรม และจองการเดินทางอื่น ๆ ได้ด้วยการคลิกเพียงไม่กี่ครั้งบนสมาร์ทโฟน

แม้แต่บริการค้นหาเที่ยวบินบน Google ผ่าน Google Flights ที่ทำงานด้วย AI ก็สามารถแจ้งเตือนเที่ยวบินที่ล่าช้าได้ ซึ่งจะดำเนินการโดย AI จะทำงานตั้งแต่การเก็บข้อมูล ประมวลผลข้อมูล ไปจนถึงการบริการลูกค้า AI สามารถตอบข้อสงสัยพื้นฐานได้โดยอัตโนมัติ ต้องขอบคุณเทคโนโลยี AI ดังกล่าว ที่เนรมิตความง่ายและสะดวกสบายเช่นนี้

ข้อดีของ AI ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว 1. ช่วยวางแผนการเดินทาง

ตามรายงานของตลาด นักท่องเที่ยว 30 เปอร์เซ็นต์ใช้สมาร์ทโฟนหรือระบบแอปพลิเคชันเพื่อวางแผนการเดินทาง โดยนักท่องเที่ยว 50 เปอร์เซ็นต์ไม่กังวลเรื่องการเดินทาง เนื่องจากในสมาร์ทโฟนของพวกเขามีแอปพลิเคชันท่องเที่ยวที่ทำงานแบบอัจฉริยะ คอยแนะนำพวกเขาตลอดการเดินทาง แอปฯ ที่ทำงานด้วย AI สามารถวางแผนได้ทุกอย่างตามที่ต้องการ ทำให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวต่าง ๆ หันมาลงทุนใช้ AI สำหรับแนะนำการเดินทางและนำเสนอบริการส่วนตัวให้กับลูกค้า แบบที่ปรับแต่งได้ตามที่ลูกค้าต้องการ

นอกจากนี้ยังมีการเสนอบริการฟรี เช่น อาหารและเครื่องดื่ม การต้อนรับ และอื่น ๆ ระหว่างการเข้าพัก AI จะช่วยปรับปรุงการให้บริการให้ดีขึ้นและดึงดูดลูกค้าได้จำนวนมาก อีกทั้งการใช้ AI เพื่อการท่องเที่ยว ยังให้ทางเลือกอีกมากมายแก่ลูกค้า เช่น กิจกรรมผจญภัย และอื่น ๆ อีกมากมาย

2. เพื่อประสบการณ์ที่ดีของลูกค้า

AI เข้ามาปฏิรูปอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว โดยมีประโยชน์หลักคือช่วยเหลือนักท่องเที่ยวในรูปแบบออนไลน์ แอปพลิเคชัน AI เน้นให้บริการที่น่าประทับใจแก่นักเดินทาง เมื่อเทียบกับบริการออฟไลน์ (มนุษย์) อย่าง Chatbot อัจฉริยะที่ให้บริการลูกค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง สามารถตอบคำถามและให้คำแนะนำต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว

3. ช่วยในการประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูล

ประโยชน์ของ AI ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว สามารถช่วยในการรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลของผู้ใช้บริการ การวิเคราะห์นี้จะเป็นประโยชน์ในการประเมินความพอใจของลูกค้า AI สามารถอ่านบทวิจารณ์ของลูกค้าและวิเคราะห์ถึงสิ่งที่ลูกค้าต้องการได้ ช่วยลดระยะเวลาในการติดตามความพึงพอใจของลูกค้า และสร้างโอกาสในการขายมากขึ้น

4. ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน

ธุรกิจท่องเที่ยวหลายแห่งใช้ AI เพื่อตอบคำถามลูกค้าโดยอัตโนมัติทันที เช่น AI Chatbot ในสายการบินต่าง ๆ ก็ช่วยผู้โดยสารค้นหาเที่ยวบินในราคาประหยัด ดังนั้น สายการบินก็จะใช้พนักงานของตนทำงานเชิงนวัตกรรมอื่น ๆ ที่ยังจำเป็นต้องใช้มนุษย์ได้

5. ช่วยการจัดการกิจการ

เมื่อลูกค้าต้องการทราบข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจ พวกเขาจะค้นหาข้อมูลทางออนไลน์ เช่น หาอ่านรีวิว ซึ่งการแสดงความคิดเห็นของลูกค้าทางออนไลน์มีบทบาทสำคัญต่อการตัดสินใจใช้บริการ ความคิดเห็นเชิงลบก็อาจสร้างความเสียหายต่อธุรกิจได้ AI จะช่วยให้ธุรกิจติดตามรีวิวหรือความคิดเห็นของลูกค้าบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียได้โดยอัตโนมัติ ธุรกิจสามารถตอบกลับความเห็นเชิงลบและวิเคราะห์แนวโน้มของตลาดได้ รวมถึงวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้าได้ด้วย ช่วยให้ธุรกิจปรับปรุงกิจการ การขาย การบริการ และรายได้ได้อย่างตรงจุด

6. กำหนดราคาแบบพลวัต

ถ้าเราค้นหาเที่ยวบินหรือโรงแรมซ้ำ ๆ เพื่อประกอบการตัดสินใจว่าจะจองหรือไม่จอง จะพบว่ามีการขึ้น ๆ ลง ๆ ของราคาอยู่ตลอดเวลา (แต่ส่วนใหญ่จะขึ้น) ซึ่งเป็นปกติของลูกค้าไม่ชอบจ่ายอะไรที่ราคาสูงมากผิดปกติ AI จะเป็นเครื่องมือในการกำหนดราคาโดยใช้การวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ เครื่องมือจะวิเคราะห์ราคาของคู่แข่งได้เร็วขึ้น และเสนอราคาที่สมเหตุสมผลให้กับลูกค้า กลยุทธ์ดังกล่าวจะเป็นประโยชน์สำหรับธุรกิจในการดึงดูดลูกค้าให้มากขึ้น

แนวโน้ม AI ที่สำคัญสำหรับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว

การจับเทรนด์ว่า AI แบบใดที่จะทำให้ธุรกิจท่องเที่ยวของเราสามารถแข่งขันกับคนอื่นในตลาดได้ อย่างแรกคือต้องศึกษาก่อนว่า AI ทำอะไรได้บ้าง ฉลาดแค่ไหน สำหรับนักท่องเที่ยว AI อาจเป็นเสมือนผู้ช่วยที่จะแจ้งให้เราทราบเกี่ยวกับวันหยุด เพื่อให้เราได้วางแผนจัดตารางการเดินทางช่วงวันหยุดกับครอบครัว หรือเครื่องมือที่ใช้เทคโนโลยี AI และแอปพลิเคชันในการเดินทาง จะทำให้การเดินทางของเราน่าพึงพอใจขึ้น

ควบคู่ไปกับประโยชน์ AI ไม่ได้ให้ประโยชน์เพียงอย่างเดียว แต่การใช้ AI ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว พนักงานภาคบริการจะได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการนำ AI เข้ามาทดแทนแรงงานคน เพราะปกติการแข่งขันในอุตสาหกรรมนี้ก็ค่อนข้างสูงอยู่แล้ว การมาของ AI คือการมาเพิ่มคู่แข่งของพนักงานภาคบริการในระบบ ให้แข่งขันกันสูงมากขึ้นไปอีก ต่อไปจะไม่ใช่คนเท่านั้นที่แย่งงานกันทำ เพราะคนต้องไปแย่งงานกับ AI ด้วย

ซึ่ง AI ที่ว่านี่ก็มีแนวโน้มว่าจะฉลาดมากกว่านี้แน่นอนในอนาคตอันใกล้ ในที่สุดแล้วหาก AI เข้ามาแทนที่คนได้อย่างน้อย 1 ใน 4 ของระบบ พนักงานบางส่วนย่อมหมดความสำคัญกับตำแหน่งงานที่เทคโนโลยีสามารถทำแทนได้ เพราะ AI คุ้มต้นทุนกว่า การทำงานเสถียรกว่า เมื่อนั้น สิ่งที่คนทำงานสายท่องเที่ยวจะเป็นกังวลก็คือ ต้องปรับตัวอย่างไรให้อยู่รอดหากคิดจะไปต่อในสายงานนี้ หรือจะปรับตัวให้สามารถทำงานในสายงานอื่น หรือจะไม่ทำอะไรเลย ดูวันที่ AI ฉลาดมากกว่านี้ จนเข้ามาทำงานในระบบได้อย่างสมบูรณ์

เทรนด์การใช้ AI ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว

  • แอปพลิเคชันการเดินทางที่ขับเคลื่อนด้วยระบบ AI นำเสนอแผนที่การเดินทาง เพื่อช่วยให้เราเดินทางไปถึงสถานที่ท่องเที่ยวตามที่วางแผนไว้
  • ทำงานเสมือนผู้ช่วยส่วนตัว AI จะช่วยให้การสนทนาแบบดิจิทัลง่ายและสะดวกขึ้น เราสามารถจองตั๋วเครื่องบินและโรงแรมได้ด้วยคำสั่งเสียง
  • แอปพลิเคชันที่ใช้ AI เพื่อให้สามารถเข้าถึงแบบออฟไลน์ สำหรับการจองตั๋วและส่งการแจ้งเตือนเกี่ยวกับการเดินทาง
  • อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะใช้เทคโนโลยี AI และ ML (Machine Learning) มากขึ้น เพื่อนำเสนอแพ็กเกจวันหยุดให้กับลูกค้ารายบุคคล
  • AI จะเข้ามาสนับสนุนการชำระเงินด้วยบัตรเงินสดแทนเงินสด ทำให้การชำระเงินค่าตั๋วไม่ยุ่งยากอีกต่อไป

คนทำงานสายท่องเที่ยวต้องปรับตัวอย่างไร

จะเห็นได้ว่า AI ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอย่างช้า ๆ แต่ในปัจจุบันก็นับว่าก้าวหน้าไปมาก ในมุมของนักท่องเที่ยว AI ช่วยให้การเดินทางสะดวกและสนุกสนานขึ้น ส่วนในมุมของบริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว การนำ AI มาใช้ประโยชน์จะมอบประสบการณ์ที่สุดประทับใจให้กับลูกค้า ผ่านแอปพลิเคชันที่รองรับการเดินทางแบบครบวงจร

เมื่อใดก็ตามที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวสามารถนำ AI เข้ามาใช้ในระบบงานได้อย่างสมบูรณ์ นั่นคือผลกระทบใหญ่งต่อบุคลากรหลายตำแหน่ง อย่างที่บอกว่า AI คุ้มทุนกว่า AI ไม่มีปากมีเสียง ตั้งหน้าตั้งตาทำงานโดยไม่บ่นหรือเถียงแม้แต่คำเดียว แถมยังมีเสถียรภาพทั้งในการทำงานและมาตรฐานของงาน ให้เป็นไปตามโปรแกรมที่กำหนดไว้

เพราะฉะนั้น การปรับตัวจึงเป็นทักษะสำคัญในการเอาตัวรอด เพื่อให้เป็นที่ต้องการของตลาดแรงงานที่เข้าสู่ยุคดิจิทัล ไม่ว่าจะด้วยการใช้จุดแข็งของตนเอง ขยับขยายหรือปรับเปลี่ยนแนวทางไปทำส่วนอื่นที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่สิ่งที่รู้จัก รวมถึงเปิดโอกาสให้ตนเองได้มีความสามารถทางด้านอื่น เพื่อจะได้กลายเป็นคนที่มีความสามารถและศักยภาพมากกว่าเดิม แล้วนำมาปรับใช้ให้ทำงานได้หลากหลายยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะอยู่ในสายงานเดิมหรือย้ายไปสายงานอื่นก็ตาม