“ขายไตซื้อไอโฟน” มุกตลกที่ขำไม่ออก! คอนเทนต์ป่วยทำสังคมป่วน

จากประเด็นดราม่าการส้รางคอนเทนต์ไม่สร้างสรรค์ในโลกออนไลน์ที่เกิดขึ้น หลายคนน่าจะเคยได้ยินมุกตลกที่ว่า แพงจนต้องขายไตซื้อ, ช่วงนี้ไม่มีเงิน สงสัยต้องขายไตหาเงินมาใช้แล้ว รู้กันไหมว่าแท้จริงแล้วมุกนี้ ไม่ใช่เพียงแค่มุกตลกที่เราพูดกันเล่น ๆ กันเท่านั้น แต่สื่อถึงการขายไตจริง ๆ ฟังไม่ผิดหรอก เพราะไตสองข้างในร่างกายเราเนี่ยแหละ มีการซื้อขายกันจริง ๆ ในต่างประเทศแถมยังราคาดีอีกด้วย

 

แต่ใครที่กำลังคิดจะขายไตเพราะอยากได้เงินด่วน เงินไว ต้องหยุดความคิดนี้ทันทีเลย สำหรับประเทศไทยการขายไตหรืออวัยวะอื่น ๆ ถือเป็นเรื่องผิดกฏหมาย และเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำเพราะไม่มีอะไรที่เรียกว่าคุ้มค่าเลยสักนิด แถมเสี่ยงพิการไปตลอดชีวิตอีกด้วย

ไขคำตอบขายไตซื้อไอโฟนได้หรือไม่?

จากประเด็นดราม่าล่าสุด โลกโซเชียลกำลังออกมาแสดงความเห็นที่ไม่ค่อยพอใจ กับกรณีที่มีเฟซบุ๊กของผู้ใช้รายหนึ่ง โพสต์ภาพของคน 3 คน ทำเหมือนกับมีบาดแผลที่หน้าท้อง แล้วถือไอโฟนเอาไว้ในมือ พร้อมกับข้อความว่า “ยอมได้เพื่อ Iphone 14” ซึ่งความเป็นจริงในมุมของการแพทย์และกฎหมาย การขายไตเป็นสิ่งผิดกฎหมาย หากเปรียบเทียบราคาและความคุ้มค่าแล้วก็คงไม่ม่คุ้มกับความเสี่ยงพิการไต 1 ข้างเพียงแค่แลกกับแค่โทรศัพท์ยี่ห้อดัง ซึ่งในประเทศไทยนั้นอนุญาตให้บริจาคอวัยวะเท่านั้น เรื่องราวทำนองนี้ไม่ใช่ครั้งแรก เคยเป็นข่าวหลายครั้งในรอบ 10 ปี โดยในปีนี้มีหลายเหตุการณ์ในทำนองเดียวกัน

  • มิถุนายน 61 พ่อคนหนึ่งใน จ.พระนครศรีอยุธยา โพสต์ขายไตราคา 2 ล้านบาท ให้เหตุผลว่าจะนำเงินที่ได้ไปรักษาลูกชายที่ป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง
  • พฤษภาคม 64 หญิงชาว จ.แพร่ ประกาศขายไต เพราะต้องการหาเงินมาใช้หนี้ และเลี้ยงดูอีก 10 ชีวิต ในบ้าน เพราะอาชีพขายก๋วยเตี๋ยว ไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้ หลังเจอโควิดระลอก 3
  • มิถุนายน 64 ชายชาว จ.ตรัง ประกาศขายไตและต้องการใช้หนี้กับธกส.และธนาคารออมสิน ให้ครอบครัว และใช้หนี้นอกระบบ
  • กันยายน 64 ชายชราคนหนึ่งใน จ.อุบลราชธานี ประกาศขายดวงตาและไต หรืออวัยวะอะไรก็ได้ในร่างกาย เพื่อหาเงินไถ่บ้านที่กำลังจะถูกยึด
  • ตุลาคม 2564 แม่ชาว จ.นครราชสีมา ประกาศขายไตเพื่อใช้หนี้ 200,000 บาทและเลี้ยงลูกออทิสติก

ขายไตผิดกฎหมาย-เสี่ยงพิการ 

สำหรับการขายไต ไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ในประเทศไทย เพราะนอกจากจะผิดกฎหมายแล้ว ยังมีอันตรายเสี่ยงพิการ แม้ว่าทุกคนจะเข้าใจดีว่าเป็นการทำคอนเทนต์เท่านั้น หากแต่ก็เกรงว่าจะเป็นการสร้างค่านิยมผิด ๆ ให้กับเด็ก ๆ เยาวชน กับการที่เสพติดวัตถุจนถึงขั้นที่สามารถแลกได้กับอวัยวะในร่างกายเพื่อให้ได้มา ขณะที่บางคน ก็มองว่า จุดที่มีบาดแผล น่าจะเหมือนกับการผ่าไส้ติ่งมากกว่า

บางคนมาแสดงความเห็นว่า “ไม่ตลกด้วย” ซึ่งเอาเข้าจริงแล้วการขายไตคงเป็นไปได้ยากมาก ๆ หรือไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเลยด้วยซ้ำ ส่วนใหญ่มักจะทำการซื้อขายกันอย่างลับ ๆ ในตลาดมืดเท่านั้น เพราะอย่างที่บอกไปว่าการซื้อขายอวัยวะถือว่าผิดกฏหมายร้ายแรง ในไทยเองสามารถทำได้เพียงแค่การบริจาคและต้องเป็นสามีภรรยาหรือสายเลือดเดียวกันเท่านั้น ที่สำคัญไม่ใช่แค่ในประเทศไทยเท่านั้น ยังมีอีกหลายประเทศทั่วโลกเลยที่นับว่าการขายไตเพื่อแลกเงินนั้นเป็นเรื่องผิดกฏหมาย

ขนาดเรื่องการบริจาคอวัยวะเองก็ต้องมีการตรวจให้แน่ใจว่าอวัยวะที่บริจาคนั้นสามารถใช้ได้จริง ไม่เป็นอวัยวะที่มีปัญหา ไม่ใช่อยู่ดี ๆ คุณก็สามารถเดินเข้าใปในโรงพยาบาลแล้วบอกว่าจะมาบริจาคไต การกระทำดังกล่าว นอกจากจะผิดกฎหมายแล้ว โรงพยาบาลไหน ๆ ก็ไม่รับทำให้ เพราะผลลัพธ์ที่ได้ทั้งคนให้และคนรับมักดูไม่จืด คนที่รับก็ได้ของไม่ดี คนที่ให้ก็เสี่ยงต่อการเป็นผู้ป่วยไตวายในอนาคต

ถ้าเคยได้ยินข่าวหนุ่มจีนขายไตแลกไอโฟนเมื่อหลายปีก่อน สุดท้ายต้องพิการนอนติดเตียง ฟอกไตไปตลอดชีวิต ก็เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน ดังนั้น จริง ๆ เรื่องแบบนี้ไม่ควรมีให้เห็นในสังคมแล้วด้วยซ้ำไป เพราะการเป็นคนที่มีไตไม่ครบหรือไตใช้งานได้ไม่ปกติ ไม่ใช่เรื่องตลกสำหรับคนที่มีประสบการณ์ที่ทุกข์ทรมานจากการเป็นผู้ป่วยโรคไต ไม่สมควรเลยที่จะเอามาเป็นมุกตลกได้

การขายไตเป็นเรื่องผิดกฎหมายในทุกประเทศยกเว้นประเทศอิหร่าน เพราะในทางจริยธรรม รัฐบาลส่วนใหญ่ไม่ต้องการทำให้เรื่องนี้เป็นเรื่องถูกกฎหมาย เนื่องจากจะเป็นการเปิดช่องให้คนขายอวัยวะของตัวเองเพื่อแลกเงิน หากใครที่ซื้ออวัยวะของผู้อื่นไม่ว่าจะเป็นไต หรือดวงตา จะเข้าข่ายกระทำความผิด ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายสาหัส หรือโรงพยาบาล หรือหมอที่รับจะถูกลงโทษตามกฎหมายอาญา และเพิกถอนใบประกอบวิชาชีพ

เหลือไต 1 ข้างใช้ชีวิตต่อได้ไหม

สำหรับคนที่มีปัญหาสุขภาพ ต้องสูญเสียไต 1 ข้าง สามารถใช้ชีวิตได้แทบเหมือนคนปกติ เพราะไตข้างเดียว สามารถทำหน้าที่ได้เพียงพอแล้ว แต่ควรลดของเค็ม และกินน้ำมาก ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงให้ไตทำงานหนัก และควรออกกำลังกาย ตรวจสุขภาพเป็นประจำ

ถ้าให้สรุปว่า เราควรขายไต? ขายอวัยวะไหม? ต้องบอกว่า เป็นสิ่งผิดกฎหมายและไม่ควรทำ เพราะเงินที่ได้มาไม่คุ้มค่าต่อการสูญเสียอวัยวะเพียงสักชิ้นในร่างกาย และยังผิดกฎหมายอีกด้วย แม้ว่าการขายไต 1 ข้าง จะสามารถใช้ชีวิตต่อได้ แต่หากไตทำงานหนัก ต้องฟอกไต หรือระบบร่างกายมีปัญหา ก็จะต้องจ่ายเงินค่ารักษาดูแลตัวเองอยู่ดี ทางแก้ที่ดีที่สุดจึงไม่ควรขาย แต่ควรหาหนทางอื่นต่อสู้กับหนี้สินที่ก่อไว้แทน ที่สำคัญ ราคาของไตหนึ่งข้าง อาจจะได้แค่ไอโฟนเพียงหนึ่งเครื่องเท่านั้น ไม่เพียงพอจะปลดหนี้ใด ๆ เพราะฉะนั้นคิดดี ๆ ก่อนคิดจะทำอะไรจะดีที่สุด ในส่วนผู้เสนอคอนเทนต์เอง แม้จะไม่ใช่เรื่องจริง แต่บางคนอาจเข้าใจผิด และทำเลียนแบบได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำอย่างยิ่งเช่นกัน คอนเทนต์หาเงิน สร้างค่านิยมผิด ๆ

ในบ้านเราก่อนหน้านี้ ก็มีคอนเทนต์ไม่สร้างสรรค์ออกมามากมาย และยิ่งไปกว่านั้นสื่อในโซเชียลมีเดียยุคนี้ ไปเร็วยิ่งกว่าความไวแสงเสียอีก คลิปไหนเกรียน หรือคลิปไหนที่แสดงถึงความไร้จิตสำนึกของคนทำคลิปต่าง ๆ สื่อและคนเสพสื่อทั้งหลายมักให้ความสนใจ ข่าวก็พร้อมจะเขียนข่าวตีแผ่ข่าวไปในทางที่บอกว่านี่คือการทำคอนเทนต์ที่ไม่สร้างสรรค์ไร้ซึ่งจรรยาบรรณ เกรียนคีย์บอร์คทั้งหลายก็พร้อมใจกันกดเข้าไปชมคลิป แชร์คลิปนี้ให้เพื่อนดูอย่างรวดเร็วเช่นกัน

เช่นกันกับคอนเทนต์ล่าสุดที่ดูแล้วอาจจะขำนี้ ก็มีชาวเน็ตหลายคนที่เข้าไปคอมเมนต์แบบติดตลกว่า ขายด้วย ๆ, จะเอาไตไปให้หมอ, ต้องทำถึงขนาดนั้นเลยเหรอ, หรือบางคนถึงกับแชร์ต่อ ๆ กัน และตั้งข้อสงสัยว่ามันสามารถขายได้จริง ๆ ใช่ไหม เป็นต้น งานนี้ทำเอาชาวเน็ตชาวไทยบางท่านขำไม่ออก และไม่โอเคกับคอนเทนต์แบบนี้ และคิดว่ามันไม่สร้างสรรค์เอาเสียเลย บางคนก็บอกว่ามันผิดกฎหมายนะ นี่เห็นไอโฟน 14 ดีกว่าไตตัวเองอีกเหรอ คือใช้ไตข้างเดียวก็ได้อย่างนั้นเหรอขอเพียงได้ไอโฟน

การทำคอนเทนต์ของเขา อาจจะแค่อยากสื่อเพียงความอยากได้ของใหม่แบบติดขำแบบไม่รู้ตัว แต่ความจริงแล้วคอนเทนต์แบบนี้มันเป็นเหมือนดาบสองคมที่ถ้าใครเชื่อก็อาจจะส่งผลเสีย เพราะเกิดการสื่อสารผิดพลาด มันอาจส่งผลร้ายตามมา เด็ก ๆ ที่ไม่มีวิจารณญาณมากพอในการเสพสื่อ และพ่อแม่ก็ไม่ได้มีเวลามานั่งกลั่นกรองคอนเทนต์ที่เด็กเสพ อาจจะแอบทำอะไรที่ไม่ถูกต้องได้ เเต่ในอีกด้านหนึ่งก็สามารถมองว่า มันเป็นเรื่องขำ ๆ คนไทยก็ซีเรียสเกินไป

การแชร์และวิพากษ์วิจารณ์เป็นเรื่องที่ดี เพื่อเป็นการแสดงให้รู้ว่าสิ่งที่ทำนั้นเป็นสิ่งที่ผิดและไม่สร้างสรรค์ แต่การกระทำเช่นนี้ เหมือนเป็นการชี้ทาง สนับสนุนว่ามันสามารถทำได้จริง เป็นการสนับสนุนทางอ้อม แม้ไม่เห็นด้วยก็ตาม ทำให้เพจหรือเจ้าของคลิป ดังชั่วข้ามคืน ถึงแม้ว่ามันจะเป็นข่าวเสีย ๆ ข่าวที่ไร้ซึ่งจรรยาบรรณ ข่าวที่ไม่สร้างสรรค์ แต่จะสนใจอะไรในเมื่อเป็นที่รู้จักของผู้คนมากมาย เดี๋ยวกระแสเรื่องไม่ดีก็หายไป รู้ตัวว่าทำผิดแค่ออกมายอมรับผิดขอโทษสังคม กับสิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไป ขาดการยั้งคิด หรือหงายไพ่รู้เท่าไม่ถึงการนั่นแหละ คนในสังคมลืมง่าย เดี๋ยวสังคมก็ให้อภัย ให้โอกาส

แต่หากมองที่การกระทำแล้ว ทุกอย่างผ่านกระบวนการคิดมาอย่างดี มีขั้นมีตอนในการทำงาน เรื่องนี้หามีสติกันสักนิด ควรกดแบนไม่ให้มีตัวตนผุดขึ้นมาสร้างคลิปที่ไร้จรรยาบรรณแบบนี้ไปเลย เพราะมันไม่จบที่ครั้งเดียวหรอก

เหตุการณ์นี้อาจสร้างค่านิยมผิด ๆ ให้กับคนอื่น ๆ โดยเฉพาะเด็กและเยาวชนจะเข้าใจผิดว่าสามารถทำได้จริง หรืออาจคิดได้ว่าอวัยวะในร่างกายเรานั้นมีค่าเพียงแค่ไอโฟนเครื่องเดียวเองหรอ และอาจตกเป็นเหยื่อต่อกลุ่มค้าอวัยวะเถื่อนได้ในที่สุด คอนเทนต์เหมือนเป็นการชี้โพรงให้โจรเสียจริง ๆ ซึ่งเอาเข้าจริงแล้วโทรศัพท์ที่ออกมา มันก็ออกใหม่มาทุกปีอยู่แล้ว หากเป็นเช่นนั้นได้จริง คุณต้องแลกอวัยวะเพื่อตอบสนองความต้องการนี้กันสักกี่ครั้งกันหรือ แล้วคงไม่คุ้มเอาเสียเลยหากได้สิ่งที่ต้องการแล้ว ต้องนอนเป็นคนพิการไปตลอดชีวิต

สรุปคือ “ขายไตแลกเงินผิดกฎหมาย” เป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายทำไม่ได้ ไม่เหมือนกับการ “บริจาคอวัยวะ” เนื่องจากการบริจาค เป็นการช่วยชีวิตผู้อื่น ไม่ใช่การ “ขายอวัยวะเพื่อแลกกับทรัพย์สิน” เป็นการกระทำที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง การนำเสนอคอนเทนต์เองก็เช่นกัน เป็นการกระทำที่ผิด ไม่สร้างสรรค์ และไม่ควรเกิดขึ้นในสังคมอีกต่อไป