ของใหม่ท้าให้ลอง! ฟีเจอร์สุดเจ๋งใน Edge ที่เหนือชั้นกว่า Chrome

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ผลิตภัณฑ์ในตำนานของ Microsoft อย่าง Internet Explorer เพิ่งจะบอกลาชาวโลกไปอย่างไม่มีวันกลับ สิริรวมอายุที่ Internet Explorer อยู่กับเราก็คือเกือบ 27 ปีเต็ม ใครหลายคนที่ทันได้ใช้งานคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตในช่วงที่ยังไม่รู้จัก Mozilla Firefox และ Google Chrome ก็น่าจะเคยมีประสบการณ์สุดน่าตื่นเต้นเมื่อได้ใช้งาน Internet Explorer ชนิดที่จำได้ยันวาระสุดท้ายของชีวิตเลยทีเดียว แต่เมื่อชาวโลกได้รู้จักกับ 2 เบราว์เซอร์น้องใหม่ หลายคนก็กล่าวคำอำลา Internet Explorer ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาแล้ว

การมีอยู่ของ Internet Explorer ในช่วงที่ผ่านมา หลายคนรู้สึกว่ามันช่างเป็นซอฟต์แวร์ส่วนเกินของคอมพิวเตอร์เสียเหลือเกิน สัญลักษณ์ไอคอนตัว e ที่มีวงแหวนสีเหลืองล้อมรอบตัวนี้เป็นแค่ไอคอนประดับจอคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้งานหลายคนมาตั้งนานแล้ว จนกระทั่งในปี 2015 ทาง Microsoft ก็ได้ออกผลิตภัณฑ์ตัวใหม่สู่ตลาด เป็นผลิตภัณฑ์ประเภทเดียวกับ Internet Explorer ซึ่งก็คือเบราว์เซอร์ โดยใช้ชื่อว่า Microsoft Edge

ในที่สุด Microsoft ก็ยอมรับได้เสียทีว่า Internet Explorer นั้นเป็นหลุมดำใหญ่ จึงได้เลิกสนับสนุนและถอดการใช้งานของ Internet Explorer ออกถาวร แล้วนำ Microsoft Edge เวอร์ชันใหม่เข้ามาเป็นเบราว์เซอร์หลักบน Windows 10 ตั้งแต่ปี 2020 โดย Microsoft Edge เวอร์ชันใหม่นี้ใช้รหัสเดียวกันและอยู่บน Chromium เช่นเดียวกับเบราว์เซอร์ Google Chrome จึงมีความคล้ายคลึงกันในด้านประสิทธิภาพและใช้งานได้กับส่วนขยายเดียวกันทั้งหมด

แต่ถ้า Microsoft Edge จะพยายามเลียนแบบ Google Chrome เพียงอย่างเดียว ก็จะไม่น่าสนใจและขาดการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยี เป็นเบราว์เซอร์น้องใหม่ทั้งทีก็ต้องมีอะไรที่ชวนว้าวมากกว่า Google Chrome ที่เป็นที่ 1 ในตลาดปัจจุบัน จะได้ดึงดูดให้คนหันมาใช้งานมากขึ้น โดย Microsoft Edge จะเป็นมากกว่าตัวที่เลียนแบบ Google Chrome เพราะได้รวบรวมคุณสมบัติบางประการที่ Google Chrome ไม่มี ซึ่งหากใครได้ลองใช้งานแล้ว อาจจะอวยยศให้ Microsoft Edge กลายเป็นเบราว์เซอร์หลักแทน Google Chrome เลยก็เป็นได้

อย่างไรก็ดี เวลานี้หลาย ๆ คนอาจจะยังอคติกับ Microsoft Edge อยู่ไม่น้อย นั่นก็เป็นผลมาจาก Internet Explorer ที่ทำกับชาวโลกไว้เจ็บแสบไม่น้อย แต่ถ้าคุณได้เห็นข้อดีต่าง ๆ ของ Microsoft Edge อย่างจริงจัง คุณอาจจะหันกลับมาพิจารณาเบราว์เซอร์น้องใหม่นี้ก็ได้

ข้อมูลจากเว็บไซต์ Computerworld ได้ทำการทดสอบการใช้แรมของ Microsoft Edge เทียบกับ Google Chrome โดยการเปิดเว็บไซต์ 5 แท็บเท่า ๆ กัน แล้วปิดส่วนขยายทั้งหมด พบว่า Edge ใช้แรมน้อยกว่า Chrome ถึง 14% เลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีผลการทดสอบ Benchmark ต่าง ๆ จากเว็บไซต์ Venture Beat ที่พบว่า Edge ชนะ Chrome เกือบทุกรายการทดสอบ คือ

  • SunSpider: Edge ชนะ
  • Octane: Chrome ชนะ
  • Kraken: Firefox ชนะ
  • JetStream: Edge ชนะ
  • MotionMark: Edge ชนะ
  • Speedometer: Edge ชนะ
  • Basemark: Brave ชนะ
  • WebXPRT: Firefox ชนะ

แถมยังผู้เชี่ยวชาญระบุเป็นเสียงเดียวกันด้วยว่า Edge ทำงานได้ดีกว่า Chrome และ Firefox จริง ๆ จากการทดสอบต่าง ๆ เวลาที่ใช้เริ่มต้นก็น้อยกว่า แม้ว่าผู้ใช้งานจะแทบไม่เห็นความแตกต่าง (Microsoft Edge 1.13 วินาที และ Google Chrome 1.53 วินาที) นอกจากนี้แล้ว Microsoft Edge ยังมีดีอะไรอีกบ้าง ที่คิดที่จะเอามาต่อกรกับเบราว์เซอร์ที่มีส่วนแบ่งการตลาดมากเป็นอันดับ 1 อย่าง Google Chrome มาดูกัน

แสดงแท็บในแนวตั้ง

แค่คลิกเดียวเท่านั้น Microsoft Edge สามารถจัดเรียงแท็บเว็บไซต์ไว้ในแนวตั้งที่ด้านซ้ายของหน้าจอ แทนที่จะอยู่ด้านบนแบบที่คุ้นเคยมานาน แรก ๆ คุณอาจรู้สึกแปลกที่ด้านบนจะไม่มีแท็บเว็บไซต์ให้เห็นอีกต่อไป แต่เชื่อเถอะว่าเพียง 2-3 สัปดาห์เท่านั้น คุณจะชินและรู้สึกว่ามันเจ๋งกว่า จนคุณอาจจะไม่อยากกลับไปใช้เบราว์เซอร์ที่แสดงเว็บไซต์ต่าง ๆ ไว้ที่ด้านบนอีกต่อไปเลยก็ได้ ซึ่งการจัดเรียงแท็บใหม่ในแนวตั้งนี้จะช่วยให้คุณเพิ่มการท่องเว็บไซต์ต่าง ๆ ได้มากขึ้น โดยที่คุณจะเห็นชื่อเว็บไซต์เต็ม ๆ จะได้ไม่เสียเวลาหานานว่าแท็บไหนเป็นแท็บไหน และคุณก็ยังสามารถซ่อนแถบด้านข้างนี้ไว้ได้ชั่วคราวหากคุณต้องการพื้นที่ในการดูจอมากขึ้น เพียงคลิกลูกศรที่ชี้ไปทางซ้าย

การติดตั้งเว็บไซต์ให้กลายเป็นแอปฯ

เพียงคลิกปุ่ม “…” แล้วเลือกเมนู “แอป” คุณจะพบว่าคุณสามารถติดตั้งเว็บไซต์ปัจจุบันที่เปิดอยู่ให้กลายเป็นแอปฯ บนเดสก์ท็อปของคุณได้ ข้อดีก็คือจะช่วยให้เว็บไซต์นี้ถูกเปิดขึ้นมาเป็นหน้าต่างของตัวเองโดยไม่เกะกะกับเมนูปกติ เมื่อมันกลายเป็นแอปฯ แล้ว คุณสามารถเพิ่มลงในเมนู Start และ Task Bat ได้ เพราะฟีเจอร์นี้ได้เปลี่ยนวิธีใช้งานเว็บไซต์แบบพื้นฐานไปแล้ว นั่นทำให้คุณสามารถเข้าถึงบริการของ Gmail ได้อย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องให้มันไปรวมอยู่ในแท็บเว็บไซต์จำนวนมาก แม้ว่า Google Chrome จะมีฟีเจอร์ที่คล้ายคลึงกัน แต่ Microsoft Edge ได้เปลี่ยนให้เว็บไซต์กลายเป็นแอปฯ ที่ถูกติดตั้งไว้ในเครื่องแล้ว

คุณสมบัติใน “การอ่าน”

ฟีเจอร์ที่มีประโยชน์สำหรับคนที่เปิดเว็บไซต์มาแต่ขี้เกียจที่จะอ่านข้อความเอง คุณสามารถกด F9 บนหน้าเว็บไซต์ใด ๆ หรือจะคลิกที่ไอคอนทางด้านขวา “Read Aloud” หรือจะกด Ctrl+Shift+U ก็ได้ Microsoft Edge จะนำคุณไปสู่ “โหมดผู้อ่าน” พูดให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ คุณไม่ต้องอ่านข้อมูลที่ปรากฏบนหน้าจอด้วยตนเอง แต่ใช้วิธี “ฟัง” จากเสียงที่ AI “อ่านออกเสียง” ให้คุณฟัง โหมดนี้หน้าเว็บไซต์จะล้างโฆษณาออกไปแล้วอ่านข้อมูลบนหน้าเว็บไซต์นั้นให้คุณฟัง โดยคุณสามารถปรับแต่งข้อความได้ ปรับความเร็วในการอ่าน และเลือกเสียงได้มากมาย นับเป็นฟีเจอร์ที่มหัศจรรย์มากจริง ๆ เพราะคุณจะทำอะไรไปด้วยก็ได้ แต่เงี่ยหูฟังที่ระบบอ่านให้ฟังก็พอ ภาษาไทยก็ใช้ได้นะ

การสร้าง Collections

Collections จะเป็นเหมือนกับโฟลเดอร์ Bookmarks คุณสามารถจัดหมวดหมู่และบันทึกเว็บไซต์ที่คุณชื่นชอบเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งจะช่วยให้การใช้งานอินเทอร์เน็ตของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น แถมยังเป็นเครื่องมือที่ดีที่ช่วยให้คุณสามารถติดตามเว็บไซต์ที่ต้องการได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่คลิกไอคอนรูป + ที่อยู่บริเวณด้านบนขวา หน้าจอก็จะเปิดเมนูการสร้างคอลเลกชันมาให้ คุณสามารถเพิ่มคอลเลกชันใหม่และกด “เพิ่มหน้าปัจจุบัน” เพื่อเริ่มรวบรวมลิงก์ของเว็บไซต์ต่าง ๆ หรือจะมาคลิกขวาที่แท็บเว็บไซต์ก็ได้ แล้วเลือก “เพิ่มแท็บทั้งหมดไปยังคอลเลกชั่นใหม่” เพื่อบันทึกแท็บที่เปิดอยู่ทั้งหมดพร้อมกัน คุณจะบันทึกเว็บไซต์ต่าง ๆ เป็นคอลเลกชันได้โดยไม่เปิดแท็บทั้งหมดขึ้นมา

การป้องกันการติดตาม

ตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้นไปอีก เพราะ Microsoft Edge สามารถตั้งค่าความเป็นส่วนตัวในการท่องอินเทอร์เน็ตได้มากกว่า Google Chrome สามารถบล็อกทั้งเว็บไซต์ที่คุณเคยเยี่ยมชมและเว็บไซต์ที่คุณไม่ได้เยี่ยมชม คุณจึงสามารถบล็อกคุกกี้ของบุคคลที่สาม ป้องกันไม่ให้เว็บไซต์รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับคุณในขณะที่คุณกำลังท่องเว็บไซต์ได้ตลอดเวลาที่คุณใช้งาน Microsoft Edge จึงลดโอกาสที่ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณจะถูกแชร์ให้กับเว็บไซต์ต่าง ๆ มีความเข้มงวดในการบล็อกถึงสามระดับ หรือจะใช้งานร่วมกับ Microsoft Defender SmartScreen เพื่อป้องกันตัวคุณเองจากเว็บไซต์ที่เป็นอันตรายและการดาวน์โหลดแบบอัตโนมัติโดยที่คุณไม่รู้ตัว

(แถม) สิ่งที่ (ยัง) น่ารำคาญของ Edge

แม้ว่าฟีเจอร์ต่าง ๆ ของ Microsoft Edge จะเจ๋งสุด ๆ แต่มันก็ยังมีสิ่งที่สร้างความรำคาญให้กับผู้ใช้งานอยู่เหมือนกัน นั่นก็คือ Microsoft ให้ความสำคัญกับ Bing (Microsoft Bing) ซึ่งเป็นบริการเสิร์ชเอนจินของ Microsoft เองมากเกินไป สำหรับคนไทยหลาย ๆ คน อาจจะคุ้นชินกับการใช้เครื่องมือค้นหาด้วย Google มากกว่า เจอ Bing เข้าไปก็อาจจะไปไม่เป็น ซึ่งการจะเปลี่ยนค่าเริ่มต้นของเครื่องมือค้นหาจำเป็นต้องปรับแต่งหลายขั้นตอนพอสมควร

ถ้าคุณต้องการตั้งค่าให้ Google เป็นเครื่องมือแรกสำหรับใช้ค้นหา คุณต้องไปที่การตั้งค่า เลือกเมนู “ความเป็นส่วนตัว การค้นหา และบริการ” จากนั้นเลื่อนลงไปที่ด้านล่างสุดของหน้า เลือก “แถบที่อยู่และค้นหา” ที่หน้าถัดไป ให้คุณเปลี่ยนเครื่องมือค้นหาจาก Bing ไปเป็น Google แต่หน้าแท็บใหม่จะยังปรากฏ Bing อยู่ เพราะฉะนั้น ในบรรทัดต่อมา ให้คุณเปลี่ยนให้เป็น “แถบที่อยู่” ด้วย หากคุณจะเปลี่ยนมาใช้ Microsoft Edge กับทุกอุปกรณ์ที่คุณมี แล้วตั้งค่าให้ Google เป็นเครื่องมือแรกสำหรับการค้นหา คุณต้องเข้ามาทำแบบนี้ทุกอุปกรณ์ เพราะ Microsoft ไม่ซิงค์ให้